รวบ "ชายคลุ้มคลั่ง" ติดยา-เหล้า งอมแงม คว้ามีดหวังทำร้ายแม่วัยชรา
17 ม.ค. 2564, 20:19
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ถูกพลเมืองดีถ่ายคลิปเหตุการณ์ ระทึกไว้ได้ ทราบชื่อคือ นาย อนันต์ จันทร์สว่าง อายุ 61 ปี คลุ้มคลั่ง ถือมีด ขอ ยาวเกือบ 1 เมตร ทำท่าจะไล่ฟันชาวบ้านอยู่บริเวณร้านขายของชำ เลขที่ 25 หมู่ 2 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่จุดปากข้าวสาร ได้รับแจ้ง จึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมเดินเข้าไปเกลี่ยกล่อม แต่ถูกชาย อายุ 61 ปี ตะโกนบอกว่า อย่าเข้ามา พร้อมจะเอามีดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถอยออกมา แล้วรีบแจ้งขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมือง สระบุรี พร้อม มูลนิธิสว่างรัตนตรัย กู้ภัย พร้อมอุปกรณ์ ต้องตรึงกำลัง อยู่ห่างๆ และพยายาม ตะโกน ไกล่เกลี่ย ให้ชายดังกล่าว วางมีดลงแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากชาย อายุ 61 ปี ไม่รับฟัง อยากจะคุยกับ ลุงตู่ หมายถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่จึงให้กำลังบางส่วนอ้อมไปสุ่มอยู่ป่าละเมาะ ด้านหลังของชาย อายุ 61 ปี พร้อมกับ ออกอุบาย ให้ชายดังกล่าว หลงเชื่อ เพื่อเบี่ยงเบน ความสนใจ ด้วยการใช้โทรศัพท์ แจ้งว่า ลุงตู่ โทรมาหา จะคุยด้วยทำให้ชาย อายุ 61 ปี เผลอ เดินขยับออกมาเกือบถึงหน้าร้านค้า เพื่อจะขว้าง มีดขอในมือใส่เจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ เห็นว่าชาย อายุ 61 ปี อยู่ในตำแหน่ง ที่เหมาะสม จึงเข้ารวบตัวชาย อายุ 61 ปี ไว้ ได้
จากการสอบถาม น้องสาว ชาย อายุ 61 ปี (นาง ชนาภา จันทร์สว่าง อายุ 52 ปี น้องสาว เล่าว่า นาย อนันต์ เป็นพี่ชาย วันๆ จะเดินขอเงินแม่ คือนาง ยุภา มะนาวหวาน อายุ 83 ปี เป็นประจำโดยจะนำเงินที่ได้ครั้งละ 20 บาท บ้างหรือบางวัน ขอมากกว่านั้น เพื่อนำ ไปซื้อสุราดื่ม และเสพยาเสพติด ในบ้างครั้ง โดยพี่ชายมีพฤติกรรมแบบนี้ มานานตั้งแต่ เป็นวัยรุ่น จนกระทั่ง อายุ 61 ปี ก็ไม่มีทีท่า ว่าจะเลิกเหล้า หรือเลิกเสพยาเสพติดได้ อีกทั้งไม่เคยงานทำเอาแต่ เกาะแม่เกาะพี่น้องกินจนทุกคนในบ้านเอือมระอา ยิ่งมาคลุ้มคลั่งถือมีดขออาละวาด พยายามจะทำร้ายคนในบ้าน โดยเฉพาะแม่ที่แก่ชรา หูตึงเดินเหินก็ไม่ค่อยจะไหว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัว เพื่อดำเนินคดีดังกล่าว
นางชนาภา ยังเผยต่ออีกว่า หากตำรวจปล่อยตัวพี่ชายออกมาเร็วกว่ากำหนดหรือไม่ดำเนินคดี เนื่องจากพี่ชายไม่ได้ลงมือทำร้ายใครอาจจะถูกดำเนินคดีแค่เมาสุราอาละวาด หรือก่อความเดือดร้อนรำคราญ ซึ่งเป็นคดีที่มีโทษไม่รุนแรง จึงเกรงว่าพี่ชายอาจโกรธแค้นหวนกลับมาทำร้ายแม่ และตนเอง อีกในภายหลังจึงอยากจะฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัว พี่ชายไปบำบัดรักษา อย่างน้อยหากกลับมาพี่ชายอาจกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ขึ้นมาได้
ด้าน นางยุภา เล่าว่า ลูกชายที่คลุ้มคลั่ง ไม่มีงานทำมานานแล้ว จะมาขอเงินตนเองทุกวันเพื่อเอาไปซื้อเหล้าดื่ม ที่ร้านขายของชำ ของน้องสาว บริเวณจุดก่อเหตุ ซึ่ง ปกติลูกชาย หากไม่เสพยาหรือดื่มสุรา ก็จะนอนทั้งวันในห้องด้านหลังบ้าน แต่วันนี้ขอเงินแม่ แม่ไม่ให้เลยเกิดอารมณ์โมโห และคลุ้มคลั่ง เนื่องจากติดสุราและยาเสพติดดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นาย อนันต์ ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก เมื่อหายคลุ้มคลั่งก็จะเบิกตัวส่งไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลสระบุรี พร้อมทั้งส่งดำเนินคดี เพื่อเข้าสู่ขบวนการบำบัดผู้เสพยาเสพติดต่อไป