ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ ท่านนายอำเภอเกาะสมุย และคณะที่ประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเกาะสมุย โรงพยาบาลเกาะสมุย สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุยและอาสาสมัคร อสม ที่เข้มแข็ง และต้องชื่นชม ทางฝายปกครอง โดยท่านนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ที่ร่วมกันผนึกกำลัง เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้ในพื้นที่อื่นๆได้เป็นตัวอย่าง ได้ทำตาม เพราะมองว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอำเภอเกาะสุมย ทำงานกันแบบเชิงรุก เนื่องจากว่า พื้นที่เกาะสมุยถึงแม้ว่าในการแพร่ระบาดระลอกใหม่ยังไม่มีตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากแรงงานต่างด้าวแต่อย่างใด 

ซึ่งการทำงานเชิงรุกของอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมด มาทำประวัติ พร้อมตรวจหาเชื้อ ในแรงงานต่างด้าว ที่มีตัวเลขของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย กว่า 10,000 คน ซึ่งทางเทศบาลนครเกาะสมุยเอง ได้จัดสรรงบประมาณ มาส่วนหนึ่ง ในการจัดทำประวัติแรรงานต่างด้าวเหล่านี้ มาตรวจและทำการขึ้นทะเบียน ซึ่งทำให้เพิ่มความเข้มแข็ง ในพื้นที่ ขณะที่ตนได้รับการร้องเรียนจากในพื้นที่ในจังหวัดอื่นๆ ในเรื่องของการทำประวัติแรงานต่างด้าว เนื่องจากที่อื่นๆไม่มีงบประมาณในการจัดทำ แต่สำหรับที่เกาะสมุย มีความพร้อมสมควรที่ได้รับชื่นชม และน่าจะเป็นโมเดลในการบูรณาการเชิงรุกในครั้งนี้

จึงอยากขอร้องไปยังรัฐบาล ว่าหน่วยงานในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ทำงานกันหนักมาก และสิ่งที่ขาดไปคือเรื่องของการขาดการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลลงมาช่วย หากรัฐบาลปล่อยให้ทางหน่วยงานในพื้นที่เกาะสมุย เป็นภาระ เช่นเทศบาลนครเกาะสมุย และโรงพยาบาลเกาะสมุย เพียงอย่างเดียวก็จะแบกรับภาระไม่ไหว จึงสะท้อนถึงรัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณมาช่วย อย่างเร่งด่วนเพื่อเสริมกำลังเครื่องไม้เครื่องมือ และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของการสร้างขวัญและกำลังใจของหน่วยงานในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อที่จะได้ที่มีความเข้มแข็ง และสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย หากเครื่องมือพร้อมรัฐบาลก็ไม่ต้องห่วง 

ขณะเดียวกันฝากถึงประชาชนนักท่องเที่ยวชาวไทย ขอเชิญชวนมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย อากาศสบายธรรมชาติน่าเที่ยว มีความปลอดภัยสูง และมั่นใจปลอดภัยจากโควิด-19