"แม่เลี้ยงเดี่ยว" กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ได้กลับมาเลเซียพร้อมลูกชาย 3 คน หลังติดอยู่ในพื้นที่นานกว่า 9 เดือน
22 ธ.ค. 2563, 12:42
วันที่ 21 ธ.ค.2563 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ภายใต้อำนวยการ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นางคอดีเยาะ หะลี นางพารีดะ อาลีซู คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนภาคใต้ นายรพี มามะ ผู้ช่วยเลขานุการ ที่ปรึกษาระดับพื้นที่ สล.3 นายตูแวดานียา มือรีงิง คณะ สล.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 41 ได้อำนวยความสะดวก ที่ด่านอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ให้กับนางสาวสากีนา มูเซะ อายุ 38 ปีชาวอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา อาศัยและทำงานในประเทศมาเลเซียกว่า 20 ปี พร้อมลูกชายสามคนด้วยกันคือ ด.ช.มูฮัมหมัดอาดัม แดเนียล 12 ปี ด.ช.มูฮัมหมัดอารัช รอยฮาน 7 ปี
โดยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ก่อน 2 วัน ที่ประเทศมาเลเซียประกาศล๊อคเดาว์ เธอได้ได้ตัดสินใจเดินทางกลับไทยเพื่อจ็อบหนังสือเดินทางที่วีซ่าใกล้หมดอายุ และเยี่ยมญาติโดยมีลูกชายทั้งสามคนขอตามมาด้วย เพราะไม่มีคนดูแลลูกๆหากทิ้งไวที่มาเลเซีย และไม่เคยคิดว่าการประกาศปิดประเทศเนื่องจากการแพร่บาดของโควิค-19 ในครั้งนี้จะยาวนานจนทำให้เธอและลูกต้องติดค้างในจังหวัดยะลานานกว่าเก้าเดือน
ต่อมาทางทีมงาน ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามหนังสือขออนุญาตกลับมาเลเซีย ของทั้งสี่คน และผู้ว่าฯได้ดำเนินสั่งการ ได้ส่งหนังสือกลับไปยังกงสุลมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา กำหนดการเดินทางกลับในวันที่ 21 ธ.ค.2563 ณ.ช่องทางด่าน อ.สุไหงโกลก
ทั้งนี้ได้มีการดำเนินการอำนวยความสะดวก ทางกงสุลมาเลเซีย ได้ร่วมประสานและนำรับส่งบุคคล ทั้ง 4 คน โดยทางแม่หรือนางสากีนา มูเซะ มารดาที่จะเดินทางพร้อมลูกอีก 3 คน ได้กล่าวขอบคุณ คนไทยทุกคน และคนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอบคุณ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์แม่ทัพภาคที่ 4 ที่อำนวยความสะดวกช่วยเหลือ ร่วมถึงทีมงาน คณะกรรมคุ้มครองสิทธฺ และ สล.3 ทุกคนที่ช่วยเหลือครอบครัวของเธอ จนนำพาเธอและลูกได้กลับมาเลเซียในครั้งนี้ เธอซาบซึ้งใจมากที่สุด และจะไม่ลืมบุญคุณคน 3 จชต.ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมความดี ช่วยเหลือเธอและครอบครัว
ด้านกงสุล มาเลเซียกล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วน ภาครัฐและประชาชน ขอบคุณ กอ.รมน.ภาค 4 นับเป็นความร่วมมือต่อกันที่ดีมากที่สุด ในการให้ความช่วยเหลือ คนมาเลเซียที่ตกทุกข์ ในประเทศไทย เพื่อได้กลับคืนบ้านมาเลเซีย เราซาบซึ้ง
ต่อความช่วยเหลือของคนไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเลเซียและไทย เป็นมิตรประเทศยาวนาน จากนี้ไปจะได้เพิ่มความร่วมมือที่ดีขึ้นในทุกด้าน ในน้ำใจ ความเป็นมนุษยธรรมของคนไทย เป็นสิ่งหนึ่ง ที่สานสัมพันธ์ ที่จะนำมาซึ่งความแน่นแฟ้น ในมิตรภาพความร่วมมือทีดีมากยิ่งขึ้น และทางกุงสุล และรัฐบาลมาเลเซีย พร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับไทย กรณีคนไทยที่อาจตกทุกข์ หรือมีความเดือดร้อนจากมาเลเซีย แม้จะมีสถานการณ์ระบาดโดวิด 19 ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกัน เพื่อให้ภารกิจ 2 ประเทศประสบความสำเร็จ ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ จะร่วมอาศัยเสมือนหนึ่งเป็นพี่น้องกัน
ในการนี้นางคอดีเยาะ หะลี และทีมงานได้ ทำการมอบเงิน รับบริจาคจากประชาชนใจบุญชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับนางสากีนา มูเซะ มารดาและลูก 3 คน ที่จะต้องเดินทาง ไปยังกรุงกัวลาลุมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และจะเข้าสู่กระบวนการ คัดกรอง โควิด 19 ตามขั้นตอนมาเลเซียต่อไป อย่างไรก็ตามบรรยากาศก่อนเดินทางกลับ ผู้เป็นแม่และลูกชาย ทั้ง 3 คนได้ สลามขอบคุณไทยอีกครั้ง และบางโผกอด เจ้าหน้าที่ พร้อมหลั่งน้ำตา ก่อนจะขึ้นรถต่าง ส่งโบกมือบายบาย ก่อนที่รถยนต์กงสุลมาเลเซีย มารับและขับพาแม่ลูก ไปข้ามไปแดนมาเลเซียต่อไป