พ่อเมืองกาญจน์ ยันเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก
16 ธ.ค. 2563, 18:47
จากกรณีที่มีพ่อค้า แม่ค้า กลุ่มผู้ค้าสะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้รวมตัวมายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร้องเรียนกรณีที่มีการเรียกเก็บเงินค่าซุ้มร้านค้าในราคาซุ้มละ 15,000 บาท และหากไม่จ่ายจะตัดสิทธิ์ในการจำน่ายสินค้าและจะให้ผู้ประกอบการรายใหม่มาจำหน่ายแทน ทำให้เกรงว่าจะไม่มีสถานที่ค้าขาย นั้น
วันนี้ 16 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงทำความเข้าใจกรณีการปรับปรุงร้านค้าบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ว่า โครงการปรับปรุงพื้นที่เสื่อมโทรมและเสียหายบริเวณพื้นที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมทั้งจัดระเบียบหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีความเรียบร้อยและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัด จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี และการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่ได้ตั้งงบประมาณในเรื่องนี้ไว้ เพราะหากจะตั้งก็จะต้องรอไปจนถึงปี 2566 จึงจะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือระดมความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ
กรณีการเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท นั้น ทางการรถไฟได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการ โดยขอความร่วมมือให้ช่วยกันพัฒนาบริเวณดังกล่าว และได้มีข้อตกลงกันว่าจะทำซุ้มร้านค้าเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าได้เข้าไปขายของ จึงขอให้พ่อค้าแม่ค้ามีส่วนร่วมด้วยการบริจาคเงินรายละ 15,000 บาท แต่หลังจากมีข้อโต้แย้งจากพ่อค้าแม่ค้าบางกลุ่ม ทางการรถไฟจึงไม่เรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าว และให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งหมดย้ายเข้าไปขายในซุ้มร้านค้าใหม่เลย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใด ที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจะไม่เข้าไปอยู่ในซุ้มร้านค้าที่เราจัดไว้ให้
ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่า ร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณดังกล่าวแออัดและไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีลักษณะเหมือนสลัม อีกทั้งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นก็ต้องจัดระเบียบร้านค้าแบบ New Normal เพื่อให้เป็นสัดส่วน และเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม โดยภาคเอกชนได้ช่วยกันจัดหางบประมาณด้วยการระดมเงินในการนำมาพัฒนานับล้านบาท เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวของจังหวัด
แต่ปรากฏว่า มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มหนึ่งที่มีความคิดและผลประโยชน์อะไรบางอย่างที่ยังไม่ยอมย้ายเข้าไปขายในซุ้มที่จัดไว้ให้ ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนในเชิงเดียว ตนจึงอยากชี้แจงข้อเท็จจริงให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม โดยตนจะไม่ยอมให้อุปสรรคที่ไม่เข้าเรื่องนี้ มาหยุดการพัฒนาจังหวัดลง ทั้งๆ ที่ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จะมีเพียงพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่ไม่พอใจและไม่ยอมย้าย
ซึ่งสะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของจังหวัดกาญจนบุรี หากปล่อยให้มีสภาพเช่นนี้ต่อไป ก็จะเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็จะกระทบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในที่สุด
นอกจากนี้เราจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบทั้งหมดด้วย และปรับปรุงห้องน้ำให้สะอาดถูกสุขอนามัย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงมาดูพื้นที่ ก็เห็นพร้องต้องกันว่าจะต้องดำเนินการพัฒนาพื้นที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแควให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก
ถึงแม้จะมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วยก็ตาม ตนก็จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป จึงอยากชี้แจงทำความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่า “สิ่งที่ทำ เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ผมเอาตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประกัน” นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าว