ระทึก!! ไฟไหม้ "ล้อรถเทลเลอร์" บรรทุกน้ำมัน โชคยังดีดับทัน
6 ธ.ค. 2563, 19:00
วันที่ 6 ธ.ค.63 เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ โกลาหล หลังเจ้าหน้าที่ ดับเพลิงหนองปลาไหล ตำรวจทางหลวง พร้อมทั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งจาก คนขับรถบรรทุก น้ำมันและชาวบ้านบริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี ทางหลวง หมายเลข 362 กิโลเมตรที่ 30 หมู่ 2 ต.หนองนาก อ.หนองแค จ.สระบุรี ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบรรทุกน้ำมัน จึงเร่งรัดเข้าตรวจสอบ สังเกตเห็นรถเทลเลอร์บรรทุกน้ำมัน ดังกล่าว ลักษณะ จอดอยู่ริมถนน หันหน้าไปทาง สี่แยกสัญญาณไฟ จุดแยกพระฉาย ก่อนเข้า ถนน มิตรภาพ ขณะนั้นมี กลุ่มควัน พวยพุ่งออกมาจาก ซุ้มล้อ ด้านท้ายรถเทลเลอร์ 22 ล้อ บรรทุกน้ำมัน ทะเบียนตัวลูกพ่วง 72-4585 สระบุรี ทะเบียนตัวหัวลาก 72-4598 สระบุรี มี นายบุญนาค คลองเรียน อายุ 48 ปี เป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงรีบกั้นถนน และพื้นที่โดยรอบห้ามไม่ให้รถที่วิ่งตามหลังมาผ่านบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาไหล ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ นำรถบรรทุกน้ำดับเพลิง เข้าสกัด เปลว ไฟ ที่กำลัง เพลิงไหม้ ล้อรถ และใกล้จะลุกลามไปยัง ด้านบนที่ ติดตั้งถังน้ำมัน พร้อมทั้ง ข้อต่อสาย ไม่ให้ลุกลามเสียหายไปมากกว่านี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ใช้เวลาเกือบ 15 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
.
จากการสอบถาม นายบุญนาค คนขับรถบรรทุกน้ำมัน ดังกล่าว ทราบว่า ตนเองบรรทุกน้ำมัน มาจากสถานีคลังจ่ายน้ำมัน ในตำบลป๊อกแป็ก อำเภอเสาไห้ ขณะขับมาตาม ทางมุ่งหน้าจังหวัดขอนแก่น ขณะลงเนินสะพาน จากระดับ ถนนพหลโยธิน เข้าถนนบายพาสเลี่ยงเมื่อง เพื่อไปออกถนนมิตรภาพ ขณะที่ขับลงสะพาน ตนเอง ได้ยินเสียงยางล้อล้อ ระเบิดเสียงดังสนั่น บริเวณด้านท้ายรถบรรทุก จึงมองกระจกด้านข้าง เห็นมีกลุ่มเปลวไฟพร้อมทั้งกลุ่มควัน จึงพยายามจอดริมถนน เพื่อตรวจสอบ เห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้ล้อรถ จึงรีบน้ำถังน้ำยาเคมี ประจำรถ จำนวน 3 ถัง ฉีดใส่บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ แต่เปลวไฟไม่มีทีท่า สงบหรือหยุด ไหม้ ทำให้ ตนเอง ต้องรีบวิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุ และรีบโทรศัพท์แจ้ง เจ้าหน้าที่ มาช่วยเหลือ ดับไฟ ดังกล่าว โชคยังดี ที่เจ้าหน้าที่ สามารถดับไฟ ได้ทัน เนื่องจาก ตนเองบรรทุกน้ำมันมาเต็มจำนวน 41,000 ลิตร ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ จะเกิดความเสียหายรุนแรงกระจาย เปลวไฟ เป็นวงกว้าง และอาจทำให้ มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้ได้ อีกทั้งจะส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าว ติดขัดใช้สัญจรผ่านไม่ได้ จนกว่าเพลิงไหม้จะสงบลง ส่วนสาเหตุ ตนเองคาดว่า น่าจะเกิดจาก ขณะยางล้อระเบิด เกิดการเสียดสีของกระทะล้อ กับผิวถนน ทำให้เกิดประกายไฟ ไปติดกับยางล้อ และจุดข้อต่อ เฟืองท้าย ที่มีน้ำมันคาบน้ำมันเครื่องและจารบีหล่อลื่นติดอยู่ ทำให้ติดไฟได้ และลุกลาม เป็นเปลวไฟและกลุ่มควัน ดังกล่าว
ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์ ( พลเมืองดี ) นายตุ่น อายุ 46 ปี เป็นพ่อค้า ขายน้ำตาลสด อยู่บริเวณดังกล่าว สังเกตเห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้ยางล้อรถ จึงรีบนำน้ำและน้ำแข็ง ที่ไว้แช่น้ำตาลสดมาช่วยดับไฟอีกด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ จะเรียกคนขับไปสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป