ส่วนอำเภอที่ยังมีน้ำท่วมอยู่ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ปากพนัง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ อ.พระพรหม อ.ท่าศาลา ซึ่งคาดว่าหากฝนไม่ต่ำซ้ำลงอีกภายใน 1-2 วันนี้ ระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป

 

ด้านยอดจำนวนผู้จมน้ำเสียชีวิตสังเวยน้ำท่วมของ จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุดพุ่งสูงถึง 11 รายแล้ว ประกอบด้วย รายแรกที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ นายสมบูรณ์ ภาษากล อายุ 40 ปี จมน้ำเสียชีวิตในพื้นที่น้ำท่วมในหมู่บ้าน อ.เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2563, รายที่ 2 ในพื้นที่ อ.พระพรหม น.ส.จริยา สังข์อินทรีย์ อายุ 27 ปี และ 3 ด.ช.นฤบดินทร์ สังข์อินทร์ อายุ 5 ปี เป็นแม่ลูกกัน สาเหตุนั่งเรือโดยสารขนาดเล็กเพื่อหนีน้ำออกจากบ้านเพื่อมาพักบนถนน ระหว่างนั้นเรือลำดังกล่าวล่มเป็นเหตุให้ 2 แม่ลูกจมน้ำเสียชีวิตบริเวณถนนที่ถูกน้ำท่วมหลังป้อมจราจร สภ.พระพรหม 5แยกนาพรุหมู่ 1ต.ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อค่ำ 2 ธ.ค.

รายที่ 4 ที่พื้นที่ อ.นาบอน นายวิชิตร ไชยคชบาล อายุ 65 ปี จมน้ำเสียชีวิตหลังบ้านถูกน้ำท่วมที่บ้านเลขที่ 116/1 หมู่ 7 ต.แก้วแสน อ.นาบอน, รายที่ 5 พื้นที่ อ.ฉวาง นางจิราภร วงศ์วัสดิ์ อายุ 48 ปี หนีน้ำไม่ทันจนเป็นเหตุให้ถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปในคลองในหมู่บ้านเสียชีวิต, รายที่ 6 พื้นที่ อ.นบพิตำ น.ส.วิภารัตน์ ไม้ค้าง อายุ 27 ปี สาเหตุเนื่องจากกำลังขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำข้ามสะพานคลองกลาย หมู่ที่ 1 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ ซึ่งกำลังมีกระแสน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากโดยกระแสน้ำป่าพัดขาดพอดีทำให้ขับรถตกสะพานดังกล่าวจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว, รายที่ 7 พื้นที่ อ.เมือง นางสมบูรณ์ ชื่นเพชร อายุ 63 ปี จมน้ำเสียชีวิตในซอยข้างบ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 3 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง

 

รายที่ 8 ในพื้นที่ อ.เมือง นางโบตี๋ ตันติเบญจธรรม อายุ 82 ปี เดินหกล้มจมน้ำที่กำลังท่วมในบ้าน ที่ในบ้านเลขที่ 1542/1 ซอยหน้าทักษิณ 3 ต.ท่าวัง อ.เมือง, รายที่ 9 อ.ทุ่งใหญ่ นายมานิต อินทกูล อายุ 62ปี จมน้ำขณะดักปลาในสวนปาล์ม หมู่ 3 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่, รายที่ 10 นางจิณตมัย เรืองพันธ์ อายุ 51 ปี จมน้ำเสียชีวิตในซอยเตาหม้อ ถนนสายสะพานยาว อ.เมือง และรายที่ 11 นายสมบัติ ขาวสังข์ อายุ 51 ปี จมน้ำเสียชีวิตขณะออกไปดักอวนหาปลาที่บริเวณข้างสนามกีฬาเทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง

ส่วนอีก 2 รายยังสูญหายหาร่างไม่เจอที่ คือ นายสุข บุญศรีพัฒน์ อายุ 57 ปี ที่พื้นที่ ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 03.00 น.วันที่ 2 ธ.ค.อยู่ระหว่างการค้นหาร่างยังไม่เจอ และอีกรายที่ อ.สิชล นายอดิศักดิ์ ศรีปาน อายุ 33 ปี เป็นลูกเรือประมงถูกคลื่นซัดตกเรือจมหายไปยังค้นหาร่างไม่เจอเช่นกัน

 

ขณะที่ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานถุงยังชีพ จำนวน 10,000 ชุด ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แก่ผู้ประสบภัยอุทกภัยของจังหวัดนครศรีธรรมราชในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจังหวัด ได้จัดพิธีมอบให้ผู้ประสบภัยที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 อ.ท่งสง เป็นจุดแรก ในวันนี้ (4 ธ.ค.)

ทั้งนี้ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จำนวน 5,000 ชุด และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จำนวน 800 ชุด

 

ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เผยว่า พื้นที่ที่ประสบภัยมีทั้งหมด 23 อำเภอ มีผู้ประสบภัยจนถึงขณะนี้ 184,000 ครัวเรือน ประชากร 525,000 คน ลักษณะที่ประสบภัยมีทั้ง 4 รูปแบบ คือ น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม สภาพที่เป็นน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ตอนนี้คลี่คลายลงในระดับหนึ่ง จะเหลือน้ำท่วมขังที่เป็นจุดที่ลุ่ม แต่มวลน้ำจำนวนหนึ่งก็ยังคงอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองในเขตตัวเมือง อำเภอพระพรหม น้ำกำลังไหลลงสู่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง ใน 1-2 วันนี้

ในส่วนของมวลน้ำที่รับจากพัทลุง น้ำบางส่วนลงสู่อำเภอจุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอชะอวด ได้เร่งระบายน้ำลงสู่คลองพระราชดำริชะอวด-แพรกเมือง ซึ่งทำให้สามารถระบายลงสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น สำหรับในเขตพื้นที่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีจุดอพยพผู้ประสบภัยทั้งหมด 10 จุดมีผู้อพยพประมาณเกือบ 2,000 คน ระดับน้ำลดลงประมาณ 10-15 เซนติเมตร แต่ยังมีน้ำท่วมขัง

 

คลองสายหลักในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ทั้ง 5 สายคลอง ตั้งแต่คลองคูพาย คลองป่าเหล้า คลองสวนหลวง คลองนครน้อย คลองราเมศร์ จะลงสู่คลองท่าซัก ยังมีสภาพน้ำเชี่ยว น้ำล้นตลิ่งอยู่บางส่วน

ขณะที่ในพื้นที่อำเภอทุ่งสงที่ทุกคนเป็นห่วง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอทุ่งสงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถุงยังชีพ การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลในเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยทุกภาคส่วนได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในส่วนของสถานการณ์น้ำขณะนี้ แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนฝั่งตะวันตก ซึ่งอำเภอทุ่งสงเป็นพื้นที่รับน้ำขณะนี้ยังเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังก่อนระบายลงสู่แม่น้ำตรัง

การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบของภาคส่วนต่างๆ แผนระยะสั้น คือ การอพยพประชาชน การให้ความช่วยเหลือ ในเรื่องของถุงยังชีพ อาหาร เครื่องดื่ม อพยพสัตว์เลี้ยง ดูแลทรัพย์สินของประชาชน เรื่องที่ 2 เร่งตั้งป้ายบอกเส้นทาง ให้รถสามารถสัญจรไปมาได้หรือป้ายบอกห้ามผ่าน ส่วนที่ 3 คือการเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับการช่วยเหลือ.