ศบค.มท. กำชับผู้ว่าฯ จังหวัดชายแดน เข้มงวดมาตรการป้องกันโรคกลุ่มผู้ขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19
16 ต.ค. 2563, 10:09
วันนี้ (16 ต.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศเพื่อนบ้านได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในระดับพื้นที่ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทุกจังหวัด ดำเนินการ 1) เข้มงวดการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของกลุ่มผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็นตามที่ได้กำหนดไว้ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ที่ 8/2563 เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 7 และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2) ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดพื้นที่สำหรับจอดยานพาหนะขนส่งสินค้าให้ชัดเจนและจำกัดการเข้าพื้นที่ดังกล่าวเฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนส่งสินค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
และ 3) ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Commander :IC) ประจำช่องทางผ่านแดนทุกแห่งที่มีการอนุญาตให้ใช้ในการผ่านเข้า-ออกของบุคคล สินค้า และยานพาหนะ จำนวนช่องทางละ 1 ราย เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแล สั่งการ และประสานการปฏิบัติในการเข้า-ออกช่องทางให้เป็นไปตามข้อกำหนด คำสั่ง และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ช่องทางเข้า-ออกในระดับพื้นที่ และรายงานผลการดำเนินการให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทราบหรือพิจารณาดำเนินการ พร้อมรายงานการปฏิบัติมายัง ศบค.มท. ทราบต่อไป