โซเชียลในเฟสบุ๊ก มีการแชร์โพสของ บุญเลิฟ ชอน โดยระบุข้อความว่า “ มีรางวัลนำจับ 10,000 บาท ขโมยสายไฟเครื่องมือช่าง บ้านเกิดเหตุอยู่หน้าโรงเรียนวัดขนอนบ้านกรด บางปะอิน เข้า 2 รอบเลย เย็นรอบหนึ่งดึกรอบหนึ่ง..0813651188” โดยภาพจากกล้องวงปิดสามารถจับภาพพฤติกรรมคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยมีมา 2 คน ดูต้นทาง 1 คน และภายในบ้าน 1 คน กล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน

 

 

 

และเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news จึงเดินทางไปตรวจสอบพบกับ นายบุญรักษ์ แรมไพร อายุ 35 ปี เจ้าของเฟสบุ๊ก และยังเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินหลายรายการ ลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนสูง โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับพฤติกรรมคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งคนร้ายลงมือ วันเดียวถึง 2 ครั้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน

นายบุญรักษ์ เล่าว่า ตนมีอาชีพรับเหมาซ่อมสร้าง ทั้งไฟฟ้า และอาคาร เมื่อช่วงวันที่ 16 – 20 กรกฎาคม 2562 ตนเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา และได้นำเครื่องมือช่าง อุปกรณ์ มาวางไว้ใต้ถุนบ้าน โดยนำผ้าใบมาคลุมปิดไว้ ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เดินทางกลับมาที่บ้านก็พบความผิดปกติ อุปกรณ์เครื่องมือช่าง สายไฟที่ใช้ผ้าใบคลุมปิดไว้ถูกขโมยหายเอาไปหมด จึงดูกล้องวงจรปิดก็พบว่า มีคนร้ายเข้ามาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มา จอดอยู่ด้านนอกบ้าน ก่อนที่ 1 ในคนร้ายจะเดินเข้ามาทางข้างบ้านซึ่งมีรั้วลวดหนาม คนร้ายได้ถ่างลวดหนามและมุดเข้ามา ทำทีเดินสำรวจ ก่อนจะหยิบข้าวของมีค่า เช่น สายไฟ แย๊กไฟฟ้า ปั๊กพ่วง ซึ่งสายไฟแต่ละเส้น มีความยาว 30 – 40 เมตร ไปโดยนำไปวางตรงลวดหนามที่มุดเข้ามา ก่อนจะมีพวกมาช่วยยกหนีไป

จากนั้นกล้องก็สามารถจับภาพได้ดีในช่วง เวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 เป็นคนร้ายคนเดียวกัน มุดลวดหนามข้างบ้าน ทางเดิมที่มาขโมยในตอนเย็น คราวนี้มายกม้วนสายไฟ ซึ่งเป็นสายไฟเมนใหญ่ มีขนาดใหญ่ ทองแดงด้านในเส้นใหญ่ ยาวประมาณ 30 – 40 เมตร น้ำหนักหลายสิบกิโลกรัมไป อย่างทุลักทุเล กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน

นายบุญรักษ์ กล่าวอีกว่า คนร้ายไม่ได้มีความเกรงกลัว เข้ามาถึง 2 ครั้ง ในวันเดียวกัน ทั้งกลางวัน และกลางคืน  ซึ่งตนเองก็โพสต์ รางวัลนำจับ ใครแจ้งข้อมูลเบาะแส ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ จะให้คนละ 5,000 บาท ถ้าได้คนร้ายทั้ง 2 คน ให้ 1 หมื่นบาท เพราะรู้สึกว่าจะเป็นภัยกับสังคม ไม่อยากให้มาก่อเหตุกับใครแบบนี้อีก เพราะตนเองก็ไม่เคยถูกลักทรัพย์มาก่อน พอมาเจอกับตนเองก็รู้สึกเครียด เสียดายทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ต้องหาซื้อใหม่ก็มูลค่าหลายบาท

เบื้องต้น ได้นำหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมด ไปแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน แล้ว ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ และนำภาพกล้องวงจรปิดไปสืบสวนติดตามตัวคนร้าย ภาวนาขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้โดยเร็วที่สุด