ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563 เวลา 21.00 น. ร.ต.อ.จาตุรนต์ ทองเกลี้ยง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก มีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนรถยนต์กระบะ มาจอดขอความช่วยเหลือที่ปากซอย 19 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทตั้น สีดำ 4 ประตู ทะเบียน ชธ 3487 กทม จอดอยู่ โดยที่เบาะข้างคนขับมีศพ นายทรงวุฒิ ปัญญา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167/7 ถ.ชลธารเขต ซอย 3 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นอนเสียชีวิตอยู่ โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ที่บริเวณราวนมขวา ไหล่ขวา เอวและใต้รักแร้ขวา รวม 4 นัด

จากการสอบถาม น.ส.ดาวานีย์ อาแว ภรรยา ซึ่งเป็นคนขับรถมาขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก จึงทราบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณถนนหน้าบ้านเลขที่ 833/13 ซอย 20 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

 

ซึ่ง น.ส.ดาวานีย์ ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเป็นคนขับรถยนต์กระบะ โดยมีสามีนั่งคู่กันมากลับจากรับประทานอาหารที่บ้านมารดา ซึ่งอยู่ท่ากอไผ่ ถ.ชลธารเขต ซอย 3 ต.สุไหงโก-ลก เพื่อกลับบ้านพัก เมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านพักซึ่งอยู่ข้างบ้านเลขที่ 833/12 ซอย 20 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก เพื่อจอดรถให้สามีลงจากรถเพื่อเดินไปเปิดประตูรั้วของบ้านพัก และระหว่างที่สามีกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ ซึ่งฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก จู่ๆ ได้มีคนร้ายจำนวน 1 คน เดินมาใช้อาวุธปืนยิงสามีผ่านกระจกรถยนต์ จำนวน 4 นัดซ้อน แล้วคนร้ายได้หลบหนีไปกับยานพาหนะไม่ทราบชนิด ตนตกใจเมื่อตั้งสติได้จึงขับรถยนต์เพื่อจะนำตัวสามีส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก แต่พบรถยนต์ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก จอดอยู่บริเวณปากซอย 19 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก ตนจึงจอดรถเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก เปิดประตูรถยนต์กระบะไปดูสามี พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาชีพแปรรูปเนื้อวัวจำหน่ายในพื้นที่ และได้สอบปากคำภรรยาของผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นไม่ทราบปมเหตุที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่าคนร้ายมาอย่างไร ซึ่งตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบแกะรอยของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าจากบ้านแม่ยายของผู้เสียชีวิต ไปยังบ้านพักของผู้เสียชีวิตที่อยู่ข้างบ้านจุดเกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่จะเชิญภรรยาของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่รับศพสามีไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยในเบื้องต้นคาดว่า ปมเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งด้านธุรกิจแปรรูปเนื้อวัว แต่ถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบติดตามคนร้ายมาลงโทษให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์