พยานแห่ยืนยัน! "นายก อบต." บีบคอผลักทุ่มร่าง "สาวข้าราชการ" ลงกับพื้น ผวาหนักเร่งขอย้ายออกนอกพื้นที่ เกรงมีอันตรายถึงชีวิต
14 ก.ย. 2563, 08:54
จากกรณี น.ส.เอ อายุ 39 ปี อาชีพรับราชการตำแหน่ง นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.แห่งหนึ่ง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการตรวจรับงานจ้างเหมาทำถนนสายบ้านครั่งไปยังบ้านกระเดา หมู่ 7 ระยะทาง 800 เมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 1,100,000 บาท ซึ่งครบกำหนดแล้วเสร็จตั้งแต่เดือน มิ.ย.63 แต่ว่า น.ส.เอ ซึ่งเป็นประธานตรวจรับงานก่อสร้างกับกรรมการทั้ง 3 คน ไม่ยอมลงนามตรวจรับงาน เนื่องจากตรวจพบว่าการก่อสร้างถนนไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการตามสัญญา เช่น เหล็กและหินไม่เป็นไปตามแบบ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการร้องเรียนไปยัง สตง.จ.ศรีสะเกษ ปปช.จ.ศรีสะเกษ ปปท.ภาค 3 กอ.รมน.ศรีสะเกษ ให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และพบว่าผิดจริง อีกทั้งกรมทางหลวงก็ได้มาตรวจสอบโดยการเจาะถนน เพื่อเอาลูกปูนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการ ทำให้มีการดำเนินการตรวจสอบการทุจริตดังกล่าวตามกฎหมาย
และต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 10 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.เอ กำลังเดินจะขึ้นบันไดสำนักงาน ได้พบ นายก อบต.กำลังเดินขึ้นบันไดอยู่ด้านหน้า แต่พอ นายก อบต.หันมามองเห็น น.ส.นันทวดี ที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา นายก อบต.ได้เดินเข้ามาหาและพูดว่า “มึงจะเอาอะไรกับกู” และได้เข้ามาใช้มือทั้ง 2 ข้าง และมีมือข้างหนึ่งถือกุญแจพวงใหญ่อยู่ บีบคอของ น.ส.เอ อย่างแรง จากนั้นได้ลากเอาร่างของเหยื่อเคราะห์ร้ายลงมาจากบันได แล้วผลักทุ่มให้ล้มลงกับพื้นที่ทางเดินก่อนขึ้นบันไดอย่างแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ของ อบต.หลายคนเห็นเหตุการณ์ ทำให้ น.ส.เอ ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายทั้งตัวและได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ นายก อบต.จอมโหด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองดุม ต.ไผ่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เอ เหยื่อนายก อบต.โหด พบว่า น.ส.เอ ยังคงมีอาการบาดเจ็บตามร่างกายปวดช้ำไปทั้งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ข้างและบริเวณนิ้วก้อยเท้าข้างขวา เนื่องจากกระดูกนิ้วเท้าแตก ทำให้ น.ส.เอ ได้รับความเจ็บปวดมาก และกำลังหาไม้เท้าค้ำยันรักแร้ เพื่อจะได้ช่วยในการเคลื่อนไหวไปมาได้
น.ส.เอ เหยื่อ นายก อบต.โหด กล่าวว่า ตนได้รับการประสานงานจาก ร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว พนักงานสอบสวนคดีนี้แจ้งว่า ขณะนี้ ได้เชิญผู้ที่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุมาให้ปากคำเพื่อเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ปรากฏว่า มีข้าราชการหลายคนเข้ามาให้ปากคำเพื่อเป็นพยานแล้ว ซึ่งพยานทุกคนได้ให้การตรงกันว่า เห็นเหตุการณ์ที่ นายก อบต.ทำร้ายตนจนทำให้ได้รับบาดเจ็บจริง และขณะนี้ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.จ.ศรีสะเกษ แจ้งว่า พร้อมที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือดูแลด้านความปลอดภัย โดยจะประสานงานกับ สภ.ราษีไศล เนื่องจากตนได้รับอันตรายเนื่องจากรักษาประโยชน์ของทางราชการ แต่ว่าขณะนี้ตนได้รับการดูแลจากญาติพี่น้องชาวบ้านหนองดุมอย่างเต็มที่แล้ว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนได้รับกำลังใจจากเพื่อนร่วมงานและจากเพื่อน ๆ ทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งตนคงจะไม่สามารถทำงานที่เดิมได้อีกต่อไปแล้ว คงจะต้องขอย้ายหรือขอไปช่วยราชการนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยจะเร่งดำเนินการขอย้ายโดยด่วนที่สุด แต่ว่าขณะนี้ยังไม่ได้ยื่นเรื่องเพราะว่า กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องคดี อีกทั้งเกรงว่า หากตนออกไปนอกบ้าน ถ้าไปพบ นายก อบต.อาจจะโดนทำร้ายอีก ตนขอฝากถึงผู้ใหญ่ทุกท่านว่า การให้อำนาจกับผู้บริหารมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อข้าราชการ ซึ่งข้าราชการชั้นผู้น้อยทำอะไรได้ไม่เต็มที่ ส่วนมากเรื่องต่าง ๆจะอยู่ในมือของผู้บริหารเพราะว่ามีอำนาจสั่งการข้าราชการชั้นผู้น้อยทุกอย่าง หากผู้บริหารบ้าอำนาจก็จะทำให้ข้าราชการได้รับความเสียหายมาก ขอฝากท่านผู้ใหญ่พิจารณาแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย