สร้างจิตสำนึก "ชาวบ้าน-เยาวชน" จ.สุรินทร์ ร่วมปลูกพืชผักกินได้ข้างทาง ยาวกว่า 2 ก.ม.
29 ส.ค. 2563, 17:56
วันนี้ (29 ส.ค.63) เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณถนนสาธารณประโยชน์ หมู่ที่ 1 บ้านราม เชื่อมต่อกับ บ.ท่าเรือหมู่ 2 ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายณัฏฐพล จรัสระพีรพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานเปิดโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวและกิจกรรมเปิดถนน “ริมถนนคนกินได้” จัดขึ้นโดย อบต.ราม มีนายพิรุณ แก้วพินึก นายก อบต.ราม เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งการจัดทำกิจกรรมใครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับข้าราชการและประชาชนในเขตพื้นที่ ต.ราม ให้เห็นความสำคัญของการปลูกพืชผักสวนครัว และต้นไม้ เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับประชาชน โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชนชาว ต.ราม และเด็กๆนักเรียนในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมและปลูกต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทางจำนวนมาก มีการปลูกพืชผักสวนครัว อาทิ ต้นชะอม สะเดา ขี้เหล็ก และพืชผักสวนครัวอื่นๆตลอด 2 ข้างทาง ความยาวกว่า 2.2 ก.ม. จำนวนกว่า 3 พันต้น
สำหรับถนนลาดยางสายนี้ เป็นถนนเชื่อมต่อหลายหมู่บ้า ยังมีการสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านทั้งหมดอีก รวม 3 จุดด้วยกัน ด้วยงบประมาณกว่า 16 ล้านบาท เป็นเส้นทางที่ประชาชนชาว ต.ราม อและเขตพื้นที่ใกล้เคียง ใช้สัญจรไปมาทั้งในพื้นที่ และเข้าสู่อำเภอเมืองสุรินทร์ เป้นจำนวนมาก ซึ่งหากมีการพัฒนาและปรับปรุงและดำเนินการปลูกพืชผักสวนครัว อาทิ ต้นชะอม สะเดา ขี้เหล็ก และพืชผักสวนครัวอื่นๆ จะทำให้เป็นเส้นทางที่สามารถหยุดพักผ่อนหย่อนใจและเก็บผักสวนครัว เพื่อนำไปประกอบอาหาร ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์และต้องการที่จะพัฒนาให้กลายเป็น ริมถนนคนกินได้ ที่เป็นต้นแบบให้กับชุมชนและเป็นพื้นที่นำร่องให้กับชุมชนอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือ ให้เกิดการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชน สามารถใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
นายพิรุณ แก้วพินึก นายก อบต.ราม กล่าวว่า ถนนดังกล่าว เป็นโครงการที่ อบต.ราม เล็งเห็นความสำคัญเห็นประโยชน์ของไหล่ทาง ที่รกร้างว่างเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ จึงส่งเสริมให้ชาวบ้านมาร่วมกันปลูกพืชผักต่างๆไว้บริโภคได้ด้วย เด็กๆก็เป็นต้นกล้า เป็นเยาวชนอนาคตของชาติ ถ้าเราปลูกฝังสิ่งดีๆแล้ว เขาก็จะเป็นคนกล้า คนเก่ง กำลังที่สำคัญของชาติต่อไปในอนาคต เมื่อผักโตขึ้นมา ชาว ต.รามและใกล้เคียงก็สามารถเก็บไปบริโภคได้โดยไม่ต้องเสียเงิน หรือถ้าเหลือก็นำไปจำหน่ายได้ ระยะทางจุดเดียวจุดนี้จากจำนวน 3 แห่ง ใช้งบประมาณสร้าง 6.8 ล้านบาท ส่วนเกราะไม้ เป็นของกำนัน ต.รามคนแรกที่สร้างขึ้น เป็นเกราะต้นกำเนิดของ ต.ราม มีอายุราว 100 ปี สมัยก่อนไม่มีหอกระจายข่าว เวลาประชุม ก็จะตีเกราะเรียกผู้ใหญ่ทั้ง 14 หมู่บ้านมาประชุม หรือผู้ใหญ่ก็จะใช้ตีเพื่อเรียกชาวบ้านมาประชุม นายก อบต.รามกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่มีพิธีเปิด หลังประธานกล่าวเปิดงานเสร็จ ก็มีการให้ประธานใช้เกราะไม้ประดู่เก่าแก่ขนาดใหญ่ ตีเปิดงาน ซึ่งเป็นเกราะไม้ที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยกำนัน ต.รามคนที่ 1 สร้างขึ้น มาเมื่อเกือบ 100 ปีแล้ว ทำจากไม้ประดู่ มีลักษณะกรวงด้านใน สมัยก่อนยังไม่มีเครื่องกระจายเสียงกระจายข่าว ก็ใช้เกราะดังกล่าวตีให้ผู้ใหญ่หรือชาวบ้านทราบและเดินทางมาประชุมรวมกันที่บ้านกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน แต่ปัจจุบัน ต.ราม ได้เก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้ และปรับเปลี่ยนนำมาใช้ในการตีเปิดงานต่างๆแทน ซึ่งไม้ที่ใช้ตีก็มีขนาดใหญ่พอสมควร โดยเฉพาะเกราะไม้ที่มีความยาวกว่า 1 เมตรครึ่ง น้ำหนักกว่า 150 ก.ก. แต่ต้องใช้ไม้คานขนาดใหญ่ในการสอดหาม ต้องใช้คนหาม 2 คน เพื่อให้เกราะไม้ลอยขึ้นจากพื้นดิน ถึงจะสามารถตีให้มีเสียงดังกึกก้องได้ และต้องใช้ฟางอัดก้อนวางเทินให้คนขึ้นไปยืนแบกเกราะไม้คนละข้างเพื่อให้สูงขึ้น แม้จะหนัก แต่คนหามก็ต้องทนแบกสู้ จนกว่าจะเปิดงานเสร็จสิ้น
โดยการเริ่มต้นตี โดย นายพิรุณ แก้วพินึก นายก อบต.ราม ต่อด้วยประธานในพิธี นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ จากนั้นก็เป็นนายธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ ต่อด้วยปลัดอำเภอเมือง และปิดท้ายด้วยกำนัน ต.ราม ท่ามกลางสียงปรบมือและเสียงหัวเราะของผู้ที่มาร่วมงาน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่ง และสามารถสร้างสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย