แห่แจ้งจับ "ท้าวแชร์ออมทอง" หลังปิดบ้านหนี พบเงินสะพัดกว่าร้อยล้านบาท
22 ส.ค. 2563, 09:01
ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องจากผู้เสียหายหนึ่งในลูกบ้านของบ้านออมทองนูรีน ได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.วุฒิชัย เหล่าบุตรศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด พร้อมหลักฐานการโอนเงินและข้อมูลการแชทผ่านทางไลน์ แจ้งความเอาผิดกับท้าวคือนางสาวเกวลิน ประมาณพล (มิ้น) อายุ 23 ปี หลังจากท้าวออมทองได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มว่าจะมีการปิดของบ้านแชร์ออมทอง ทำให้ลูกบ้านจำนวนมากเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากมีความหวาดกลัวว่าท้าวแชร์บ้านออมทองอาจจะหนีออกนอกจังหวัด
พบว่ามีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้รวมกว่า 50 คน ซึ่งผู้เสียหายที่เดินทางมาได้นำหลักฐานการโอนเงินมามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้านบาท โดยสูงสุดอยู่ที่ 8 ล้านบาท โดยลักษณะเป็นการโอนเงินให้กับนางสาวเกวลิน ประมาณพล เพื่อออมทองคำที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดและยิ่งออมในระยะเวลานานทองคำดังกล่าวก็จะยิ่งราคาถูกลงไปอีก ทำให้มีผู้ที่สนใจเป็นจำนวนมากหลังมีการเปิดเผยทราบว่ามีผู้เข้ามาออมทองกับนางสาวเกวลินจำนวนนับพันคนโดยส่วนใหญ่เป็นชาวตราด
จากการสอบถามนางสาวผริญธิดา ขำสม อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ที่ลงทุนบ้านออมทองกับนางสาวเกวลิน เปิดเผยว่าได้รู้จักบ้านออมทองผ่านทางเฟสบุ๊กและสนใจจึงเข้าร่วมกลุ่มไลน์จากนั้นจะมีคนชี้แจงรายละเอียดของการออมทองตนจึงชวนพี่สาวและครอบครัวเล่น โดยเล่นมานานกว่า 3 เดือน จนครั้งสุดท้ายที่ลงทุนไปมีมูลค่ารวม 3 ล้านบาทและท้าวได้ปิดบ้านออมทองจนตนต้องเดินทางมาแจ้งความยอมรับว่าอาจจะไม่ได้คืนแล้วแต่อยากฝากบอกผ่านสื่อถึงนางสาวเกวลินว่าให้ทยอยคืนมาบ้างเพราะตอนนี้ก็ติดต่อนางสาวเกวลินไม่ได้เลย กลัวว่าจะหนีออกนอกจังหวัด
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับญาติของนางสาวเกวลิน ขอสงวนชื่อและนามสกุล ได้เปิดเผยว่าตอนนี้นางสาวเกวลินมีความเครียดเป็นอย่างมาก เพราะที่นางสาวเกวลินพิมพ์บอกรายละเอียดในไลน์ระบุไว้ชัดเจนว่าอย่าดำเนินคดีเพราะบัญชีธนาคารจะถูกอายัดทำให้ไม่สามารถคืนเงินได้ แต่ผู้เสียหายก็ยังไปแจ้งความอยู่ดี อีกทั้งการลงทุนดังกล่าวนางสาวเกวลินระบุไว้ชัดเจนว่ามีความเสี่ยงท่านที่ลงทุนต้องยอมรับข้อนี้ให้ได้ ขณะนี้นางสาวเกวลินไม่ได้คิดจะหนีแต่ขอถอยไปตั้งสติก่อน และยืนยันว่าจะรับผิดชอบลูกบ้านทุกคนเพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้น
ด.ต.ระพีพงศ์ พิริยะเวชกุลเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. มีหญิงสาวเดินเข้ามาที่โรงพักซึ่งขณะนั้นตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โต๊ะเปรียบเทียบปรับ ซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าวมีใบหน้าที่เคร่งเครียดได้ปรึกษากับตนว่า ตนเองเป็นท้าวแชร์และบ้านออมทอง แต่ตนถูกโกงทำให้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะทำต่อได้ ตนอยากทราบว่าถ้าจะปิดบ้านออมทองตนจะโดนข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งทาง ด.ต.ระพีพงศ์ พิริยะเวชกุล ได้อธิบายไปว่าหากปิดจริงจะโดนข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่หากคืนเงินให้กับเจ้าทุกข์จนหมดก็อาจจะไม่ถูกดำเนินคดี