คืบหน้า! เรือเฟอร์รี่ล่ม กลางทะเลเกาะสมุย ยังไร้แววพบผู้สูญหาย 3 ราย นักประดาน้ำเร่งค้นหา
5 ส.ค. 2563, 17:21
นักประดาน้ำเข้าถึงชั้นในตัวเรือพบรถบรรทุกขยะ 2 คัน ไม่พบคนในรถ นักประดาน้ำ พร้อมหน่วยซีล ชุดที่ 2 ดำน้ำเข้าไปสำรวจในตัวเรือได้แล้ว พบรถบรรทุกพ่วง 2 คัน ติดอยู่ในซากเรือ พบกระจกรถยนต์ถูกทุบแตกจากข้างใน ภายในรถบรรทุกไม่พบผู้สูญหาย คาดหลุดออกแล้ว และพบก้อนขยะติดในเรือจำนวนมาก ส่วนผู้สูญหายยังไร้วี่แววทั้ง 3 ราย
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานผลการปฏิบัติดำน้ำลึกของทีมครูสอนดำน้ำจากเกาะเต่า นำโดย นายอีวาน คาราจิทซ์ ครูสอนดำน้ำชาวเดนมาร์ก ที่มีประสบกานณ์ ดำน้ำเข้าไปช่วยเหลือเยาวชนทีมฟุตบอลหมู่ป่า อะคาเดมี่ และโค้ช จำนวน 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-อุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย
ได้นำครูสอนดำน้ำจากเกาะเต่าจำนวน 14 ราย พร้อมหน่วยซีล จากทัพเรือภาค 2 และหน่วยกู้ภัยทางน้ำจากมูลต่างๆ จำนวน 40 นาย ร่วมภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่จำกัดมหาชน ที่รับจ้างเหมาบรรทุกขยะ จำนวน 90 ตัน จากท่าเรือเรือเฟอร์รี่ฝั่งอำเภอเกาะสุย มุ่งหน้าไปยังท่าเทียบเรือฝั่ง อำเภอดอนสัก ภายหลังเรือออกจากท่าไปได้เพียง 5 ไมล์ทะเล ถูกคลื่นซัดจนเรือจม ซึ่งภายในเรือมีลูกเรือและคนขับรถบรรทุก และ พนักงานจำหน่ายสินค้าบนเรือรวม 16 คน ทำให้มีผู้รอดชีวิต 11 ราย พบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ยังหาไม่พบอีก 3 ราย ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้
ล่าสุด นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะรองผู้บัญชาการเหตุการณ์ ค้นหาผู้ประสบภัยเรือราชาเฟอร์รี่ ล่มเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ได้ลงเรือหลวงราวี ทัพเรือภาค 2 อำนวยความสะดวกในการนำหน่วยนักประดาน้ำ ลอยลำปล่อยตัวนักประดาน้ำ ดำลงไปค้นหา ผู้สูญหาย ตั้งแต่ช่วงสายวันนี้
โดยนักประดาน้ำชุดละ 4 คน ดำน้ำลงไปใต้ทะเลสำรวจตัวเรือ พบว่าเรืออยู่ในสภาพคว่ำ ท้ายเรือจมอยู่ในโคลนประมาณ 2 เมตร หัวเรือเชิดขึ้นเล็กน้อย และพบรถบรรทุกติดอยู่ในซากเรือจำนวน 2 คัน พบว่ากระจกรถแตกลักษณะถูกทุบจากด้านในทั้ง 2 คัน ภายในรถไม่มีคนติดอยู่แต่อย่างใด และพบก้อนขยะกระจายในตัวเรือจำนวนมาก แต่ยังไม่พบร่างผู้สูญหาย ที่คาดว่าติดอยู่ภายในเรือแต่อย่างใด ซึ่งภายในเรือนักประดาน้ำต้องค่อยๆ ระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ทรายและโคลนกระจาย จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นใต้น้ำได้
ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์ ทางนักประดาน้ำประเมินว่า ภายในเรือยังมีห้องอีกหลายห้อง ที่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงชั้นในห้องโดยสารได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรง และต้องใช้ความพยายามมุดน้ำให้นิ่งที่สุดเพื่อป้องกันมิให้น้ำขุ่น และยังไม่สามารถเข้าไปถึงห้องโดยสารชั้นในได้ และยังไม่สามาารถสรุปได้ว่า ผู้สูญหายทั้ง 3 ราย ยังติดอยู่ข้างในตัวเรือหรือไม่ ซึ่งดำน้ำค้าหาผู้สูญหายภายในเรือเฟอร์รี่ ในวันนี้ชุดนักประดาน้ำ ได้ลงดำน้ำจำนวน 4 ไดร์ หรือ 4 ชุด ชุดละ 45 นาที โดยในไดร์ที่ 4 เมื่อนักประดาน้ำลงไปแล้วและเข้าไปในห้องโดยสารเรือ ปรากฏไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากกระแสน้ำ และคลื่นได้กลับมาเเรงอีกครั้ง จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการค้นหา นักประดาน้ำจึงได้ยุติการค้นหาในเวลา 14.00 น. เเละจะทำการลงน้ำค้นหาอีกครั้งในเช้าวันพรุ่งนี้
ด้านนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ภายหลังนักประดาน้ำได้ขึ้นมารายงานสถานการณ์ โดยพบว่านักประดาน้ำได้เข้าไปสำรวจในตัวเรือแล้ว ไม่พบร่างผู้สูญหายติดในชั้นห้องโดยสารเรือ ขณะเดียวกันปัญหาของขยะได้เริ่มกระจายคลื่นซัดไปในชายหาดบ้านเกาะเเตน บ้านพังกา ในตำบลตลิ่งงาม ของอำเภอเกาะสมุย บ้างแล้ว
และในวันพรุ่งนี้วันที่ 6 สิงหาคม ทางนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย จะร่วมกับกลุ่มจิตอาสา ทำการจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เก็บขยะบนชายหาดบ้านเกาะเเตน ในเวลา 09.00 น.
ส่วนภารกิจการดำเนินการค้นหาร่างผู้สูญหายก่อน ยังดำเนินการต่อ โดยทางทีมนักประดาน้ำชาวต่างชาติ จะเริ่มปฏิบัติการดำน้ำค้นหา เจาะเข้าไปในตัวเรืออีกครั้งหลังได้ทำเครื่องหมาย มาร์คจุด ตำแหน่งต่างๆ ในตัวเรือไว้หมดแล้ว และยืนยันว่ายังมีผู้สูญหายจำนวน 3 ราย