(15 ก.ค. 62) ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายสุธน กิตติธรกุล พร้อมกลุ่มชาวบ้านในอำเภอตะกั่วป่า ได้เดินทางมายื่นหนังสือให้กับทาง ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า และ พ.ต.ท. ประกิจ นิโครธา สว.ป.สภ.ตะกั่วป่า หลังจากทางบริษัทขนส่งแห่งใหญ่ สาขาตะกั่วป่า ได้มาเช่าอาคารพาณิชย์ จำนวน 2 คูหา บริเวณหมู่ที่ 2 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อใช้เป็นสำนักงาน รับ-ส่ง ของทั่วประเทศ และจะเปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. และมีรถของบริษัท และรถของลูกค้าบริษัท มักจะมาจอดเพื่อรอคิวรับส่งของในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ซึ่งรถที่มาจอดจะกีดขวางทางเข้า-ออก จนทำให้การสัญจรไปมาของผู้อยู่อาศัยและผู้ที่จะมาติดต่อธุระ หรือผู้ปกครองที่มารับส่งนักเรียนเพื่อเรียนพิเศษในบริเวณดังกล่าวไม่สามารถ เข้า-ออก ได้ และยังส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกหลาน ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้กันโดยก่อนหน้า ที่บริษัทดังกล่าวจะเข้ามาอยู่ลูกหลานหรือเด็กๆ จะใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมวิ่งเล่นปั่นจักรยาน ออกกำลังกายแต่ขณะนี้มีปัญหาดังกล่าว จึงทำให้ไม่มีความปลอดภัยของบุตรหลาน และก่อให้เกิดความเดือดร้อนและรำคาญใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีรถที่มาจอดบริเวณไหล่ทางบนถนนเพชรเกษม จนทำให้รถที่จะออกจากซอยมองไม่เห็นรถที่วิ่งมาอีกด้านซึ่งเสี่ยงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ

 

 

 

ทางนายสุธน กิตติธรกุล ชาวบ้านอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า จากทางที่บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาทำกิจการในชุมชนของตนเองซึ่งทางกลุ่มตัวแทนชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทดังกล่าวที่มาเช่า อาคารพาณิชย์จำนวน 2 คูหา ตั้งบริษัทเพื่อรับส่งสินค้า แต่ใช้พื้นที่เพื่อทำธุรกิจเป็นเนื้อที่กว้างกว่าที่เช่าซึ่งไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าบ้านของชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว และถนนเพชรเกษม จนทำให้ผู้ประกอบการและชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถทำการค้าขายได้เลยและยังมีทางผู้ปกครองนักเรียน และผู้ประกอบการที่อยู่ติดกับบริษัทส่งของดังกล่าว ประมาณ 300-400 ราย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีรถของบริษัทและรถลูกค้าที่มารับส่งสินค้ามักจะชอบจอดกีดขวาง เส้นทางเข้า-ออก แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มชาวบ้านได้เคยไปพูดคุยกับทางบริษัทรับส่งสินค้า แต่ทางบริษัทไม่เคยเหลียวแลหรือแก้ปัญหาให้กับทางชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 ปีครึ่ง ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน