จังหวัดพะเยาตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เร่งสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ย้ำยังไม่เกิดในไทย
30 พ.ค. 2562, 10:54
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62 ห้องประชุมจอมทอง ศาลากลางจังหวัดพะเยา นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ( War room) จังหวัดพะเยา โดยกล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้มีรายงานเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ในสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างต่อเนื่องและยังไม่สามารถควบคุมได้ และมีรายงานเกิดโรคใน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระบาดของโรคดังกล่าวเนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรภายในภูมิภาค รวมถึงมีโอกาสที่เชื้อจากปนเปื้อนกับคน และอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสุกรที่ไม่ผ่านการปรุงสุกเพื่อการบริโภค แต่ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏเกิดโรคดังกล่าวในประเทศไทยแต่อย่างใด
โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นโรคที่มีความรุนแรงและก่อให้เกิดความสูญเสียต่อสุกรทุกกลุ่มอายุ ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันและยาในการรักษา หากมีการระบาดจะเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคงทางด้านอาหารเป็นอย่างมาก กรมปศุสัตว์จึงได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคอหิวาต์ในสุกร ให้ทุกจังหวัดใช้เป็นแนวทางในการยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือในพื้นที่ทุกจังหวัด
จังหวัดพะเยาจึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในระดับจังหวัดขึ้นที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา เตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ขับเคลื่อนแผนตามมาตรการสำคัญ 3 ระยะ คือ ระยะก่อนเกิดโรค ดำเนินมาตรการบริหารจัดการและขับเคลื่อนมาตรการ การป้องกันโรคเข้าสู่ประเทศเชิงบูรณาการ การเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคของฟาร์ม การเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังโรค เครือข่ายทางห้องปฏิบัติการ และการสื่อสารความ เสี่ยง ส่วนในระยะเกิดโรค จะดำเนินมาตรการควบคุมโรค และในระยะฟื้นฟูหลังโรคสงบ จะดำเนินมาตรการการระบาดฟื้นฟูเกษตรกร
โดยในเบื้องต้นนี้ จะเร่งสร้างความการรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนผู้บริโภคว่า โรคดังกล่าวไม่ติดต่อสู่คน เป็นโรคติดต่อในสุกรเท่านั้น การบริโภคเนื้อสุกรจากแหล่งที่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมีความปลอดภัย โดยปรุงอาหารให้สุกและถูกสุขอนามัย ขณะเดียวกันได้เร่งให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเสี้ยงสุกรทั้งรายใหญ่และรายย่อย ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังป้องกันโรคดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำให้จังหวัดพะเยาและประเทศไทยเป็นพื้นที่ปลอดจากโรคดัง
ขอบคุณ
ข้อมูล : สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดพะเยา