จากกรณีที่มีผู้โพสต์เตือนภัยในเพจเฟซบุ๊กคนรักดอนเมือง กรณีชายต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนตั้งแต่ถนนสรณคมน์ ซอยสรงประภา 12 เขตดอนเมือง มาจนถึงถนนสรงประภา แยกวัดดอนเมือง กระทำพฤติกรรมในลักษณะข่มขู่คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ หรืออับอายแก่ผู้อื่นในที่สาธารณะ ล่าสุด ทาง สน.ดอนเมือง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ทำการสืบสวนติดตามตัว จนทราบข้อมูลของชายรายดังกล่าว มีอายุ 41 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านถนนสรณคมน์ 

พบรถจักรยานยนต์คันที่ปรากฎในภาพจอดอยู่ในบ้านหลังนั้น จึงแสดงตัวเข้าไปพูดคุย ซึ่งชายคนดังกล่าวได้ยอมรับว่าตนคือบุคคลตามโพสต์จริง ซึ่งในขณะนั้นมีบิดา มารดา และน้องชายของผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ด้วยกัน จึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุ และเชิญญาติมาที่สน.ดอนเมือง ทั้งยังได้ติดต่อผู้โพสต์ซึ่งได้มีการมาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม 

จากการสอบถามผู้ก่อเหตุให้การว่าตนได้กระทำไปจริง โดยพยายามจะจีบผู้หญิง ซึ่งตนเองนั้นยังไม่มีแฟน มิได้มีเจตนาจะทำอันตรายใด ๆ สอบถามมารดา (บิดาไม่ได้มาด้วยเนื่องจากอายุเยอะแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรง เดินไม่ไหว) มารดายอมรับว่าเพิ่งทราบเรื่องตอนที่ตำรวจมาที่บ้าน บุตรชายของตนนั้น เคยมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน ซึ่งเลิกมาหลายปีแล้ว แต่มีอาการทางจิต  ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ยา โดยมารดา และน้องชายพยายามพาไปรักษา แต่ติดปัญหาเรื่องการเงิน เพราะน้องชายต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด เพื่อส่งเงินมาให้ใช้จ่ายเพียงคนเดียว บิดา มารดามีอายุมาก ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ประกอบกับยังไม่เคยปรากฎอาการคุ้มคลั่งใด ๆ ทั้งขณะที่ผู้ก่อเหตุพูดจารู้เรื่อง มีอาชีพเป็นรปภ.จนสามารถซื้อรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้เหมือนบุคคลปกติทั่วไป 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ ในข้อหา "กระทำพฤติกรรมในลักษณะ ข่มขู่คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญหรืออับอายแก่ผู้อื่นในที่สาธารณะ ตาม ป.อาญา มาตรา 397" จำนวน 1,000 บาท

ในส่วนของผู้เสียหายที่ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อได้พูดคุยกับทางญาติของผู้ก่อเหตุแล้ว และทางพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้ทำหนังสือส่งตัวผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลศรีธัญญา โดยทางญาติรับไปดำเนินการเอง จึงได้ถอนแจ้งความ

ทางด้านญาติของผู้ก่อเหตุ ได้ยอมรับผิด และขอโทษชาวดอนเมืองที่ผู้ก่อเหตุทำให้ทุกคนอยู่ในความตื่นตระหนก โดยหลังจากนี้จะนำตัวไปโรงพยาบาลทันที เพื่อรักษาให้หายดี และจะสอดส่องดูแลให้ดีกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อีก