ฝนทิ้งช่วง!! "บ้านพระเจดีย์สามองค์" ติดตั้งปั๊มน้ำที่สระน้ำหมู่บ้าน เตรียมรับมือภัยแล้ง
1 มิ.ย. 2563, 13:13
วันนี้ ( 1 มิ.ย. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสถาพร บุญสมจิตร ผู้ใหญ่บ้าน บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันติดตั้งปั๊มน้ำ ให้ยาวลึกลงไปในน้ำ เพื่อเตรียมปั๊มน้ำจากสระน้ำหมู่บ้าน เพื่อผลิตเป็นน้ำประปาหมู่บ้านให้ชาวบ้านได้ใช้ ภายหลังจากประสบปัญหาน้ำในสระที่เป็นแหล่งน้ำดิบ ที่ใช้ผลิตประปาประจำหมู่บ้านลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง จนแทบจะแห้งขอด ภายหลังจากเกิดภาวะแล้งและฝนทิ้งช่วง จึงต้องแก้ปัญหาเร่งด่วนด้วยการว่างจ้างรถแบ็คโฮ ขนาดเล็กมาทำการขุดลอกสระ พร้อมทำการเปิดทางให้น้ำจากสระไหลไปยังบ่อน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปา และทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยัง อบต.หนองลู และ อบจ.กาญจนบุรี สนับสนุนรถแบ็คโฮ มาทำการขุดลอกสระเพื่อนำดินโคลนออกจากสระ และขุดให้สระแห่งนี้มีความลึกเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบันต้องลดระยะเวลาในการสูบน้ำเหลือเพียงวันละ 6 ชม. โดยแบ่งเป็นช่วงเช้า ในเวลา 06.00 น. - 09.00 น. และในช่วงย็น ในเวลา 16.00 น. - 19.00 น. พร้อมขอความร่วมมือให้ชาวบ้านใช้น้ำอย่างประหยัด โชคดีที่ช่วงนี้เกิดวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานในพื้นที่ กว่า 70 โรงงาน ต้องปิดกิจการ หากไม่เช่นนั้นน้ำคงไม่พอใช้อย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับ นางจรรยา ขาวโต อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 320 หมู่ 9 เปิดเผยว่า อาศัยอยู่ที่บ้านพระเจดีย์สามองค์มานานกว่า 30 ปี ปีนี้นับว่าเป็นปีที่แล้งที่สุด ฝนทิ้งช่วงมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ทำให้น้ำไม่เพียงพอ ที่สำคัญทุกวันนี้น้ำประปาที่ใช้มีลักษณะขุ่นตลอด เนื่องจากน้ำในสระลดลง ทำให้ต้องเปิดน้ำพักไว้ในถังเพื่อให้ตกตะกอน ก่อนนำมาใช้ ที่สำคัญปัจจุบันที่นี้มีบ้านเรือนมากว่า 800 หลังคาเรือน ทำให้ต้องแบ่งน้ำกันใช้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ เพราะหากฝนยังไม่ตกและยังไม่รีบเข้ามาดำเนินการแก้ไข อีกไม่นานชาวบ้านคงไม่มีน้ำอุปโภคบริโภคแน่นอน
ภัยแล้งที่รุนแรงในหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ใน อ.สังขละบุรี ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง โดยแม่น้ำสายสำคัญทั้ง 3 สาย ซึ่งประกอบด้วย แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำรันตี และ แม่น้ำบีคลี่ มีปริมาณน้ำลดลง ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณปีนี้มีระดับน้ำที่ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ เริ่มปรากฏสันดอนกลางแม่น้ำ ขณะที่แพพักอาศัยของชาวบ้านและแพท่องเที่ยว บริเวณนี้เริ่มมีบางส่วนอยู่ในสภาพเกยตื้นอยู่บนบก ขณะที่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เริ่มมีฝนตกแต่ก็ยังอยู่ในปริมาณที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา