จากการที่มีฝนตกลงมาต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดนครพนม ประกอบกับความผันผวนของน้ำในแม่น้ำโขง ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังในเขตอำเภอเมือง ตั้งแต่บ้านท่าควาย เขตเทศบาลเมืองนครพนม ถึงบ้านห้อม หมู่ 1 ต.อาจสามารถ ไม่น้อยกว่า 100 กระชัง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักโดยเฉพาะในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม มีพายุดีเปรสชั่นเข้าถล่ม ทำให้ดินริมแม่น้ำโขงเกิดปัญหา สไลด์พังทับกระชังปลาของชาวบ้านที่เลี้ยงอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยดินริมตลิ่งแม่น้ำโขงได้สไลด์ตัวลงทับกระชังปลาทำให้หลักที่ผูกยึดกระชังถูกถอนไปด้วย เป็นเหตุให้มีกระชังปลาถูกน้ำโขงพัดหายไปกับสายน้ำจำนวนหลายหลุม รวมน้ำหนักปลาที่พร้อมจะตักไปขายต้องอันตรธานหายไปเกือบ 3 ตัน สูญเงินกว่า 2 แสนบาท โดยชาวบ้าน ได้เฝ้าระวังเตรียมเคลื่อนย้ายกระชังปลาออกห่างจากแนวตลิ่ง ที่อาจจะเกิดดินสไลด์เพิ่มแล้ว

นางประดิษฐ์ นรากรเกียรติ อายุ 61 ปี ชาวบ้านห้อม หมู่ 1 ต.อาจสามารถ เปิดเผยว่า ตนยึดอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังขายมาหลายปีแล้ว ยอมรับว่าน้ำโขงมีความผันผวนมากกว่าทุกปี หลายปีที่ผ่านมาในเดือนเดียวกัน น้ำมีระดับสูงสุดจนเกือบล้นตลิ่ง แต่ปีนี้กลับมีระดับน้ำต่ำกว่าทุกปี จึงส่งผลกระทบต่อการทำอาชีพเลี้ยงปลากระชัง เนื่องจากระดับน้ำมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ปลากระชังเลี้ยงยาก ไม่ค่อยกินอาหาร บางกระชังมีปลาตาย แต่ที่สาหัสมากที่สุดในช่วงนี้ คือดินตลิ่งแม่น้ำโขงซึ่งเป็นดินตะกอน ที่ไหลมาทับถมช่วงน้ำโขงขึ้นสูงเมื่อปี 2561 ได้เกิดปัญหาดินสไลด์พังเป็นแนวยาว โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกลงมาจะทำให้ดินริมตลิ่งอุ้มน้ำไม่ไหว แล้วทรุดลงแม่น้ำโขง บางจุดไหลทับกระชังปลาได้รับความเสียหายไปกว่า 10 กระชัง มีปลาที่เลี้ยงสูญหายไป 3 กระชัง น้ำหนักรวมราว 2 ตันเศษ สร้างความเสียหายมากกว่า 2 แสนบาท ยอมรับว่าขาดทุนหนัก ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังต้องเร่งเคลื่อนย้ายกระชังออกห่างจากตลิ่ง เพราะสังเกตว่าหากระดับน้ำโขงเพิ่มช้า แล้วจังหวะนั้นมีฝนตกลงมา จะส่งผลกระทบกับดินริมตลิ่ง มีโอกาสพังถล่มมากขึ้น ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่ป้องกันและแก้ไขได้ยากมาก

นอกจากนี้ยังพบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงปีนี้มีความผันผวนมากสุดในรอบ 10 ปี โดยจากข้อมูลพบว่า ระดับน้ำในน้ำโขงขณะนี้ วัดได้ เพียง 4 เมตร ซึ่งแตกต่างจากช่วงเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นสูงถึง 10 เมตร