วันนี้ (7 พ.ค. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับทราบว่า นายฉลอง​ พรหมพันธุ์​ อายุ 32  ปี​ บ้านเลขที่147/1​ ม.1 ต.ลาดหญ้า​ อ.เมือง​ จ.กาญจนบุรี ได้ออกจากบ้านไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีแดง ซึ่งเป็นชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ได้ออกไปหาของป่าตั้งแต่เมื่อวานช่วงเวลาประมาณเที่ยงวัน แล้วหายไม่กลับมาบ้านอีกเลย​ โดยทางญาติจึงได้ไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน และ นายไพฑูรย์  อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ก่อนขอกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และขอสนับสนุนทีมค้นหาจากทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์​  พร้อมด้วยชาวบ้านออกทำการค้นหาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และเพิ่งมาพบกลายเป็นศพเสียชีวิตไปแล้ว บริเวณป่าเขตสลักพระ ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

สำหรับจุดที่พบศพอยู่ห่างจากริมถนนประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาลาดชันบางจุดเข้าไปอย่างยากลำบากกว่าจะไปนำศพผู้เสียชีวิตลงมาจากเขาได้และสภาพศพ นายมรกต​ พรหมพันธุ์​ เบื้องต้นแหลกเลาะ แขน ขา หัก จากการทำร้ายของช้างป่าที่อาศัยอยู่ในแนวป่าสลักพระ

นายไพฑูรย์  อินทรบุตร หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้กล่าวว่า ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่สลักพระ และบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นี้จะเป็นแนวเขตติดต่อหลายอำเภอไปสุดในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร และในช่วงหน้าแล้งมักจะมีช้างป่าเดินออกจากเขตทุ่งใหญ่มายังพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโขลงช้างที่มีอยู่จำนวนมาก จะเดินเข้ามาเพื่อหาแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ แล้วไปพบเจอกับคนที่เข้าไปหาของป่า โดยช้างโขลงนี้จะมีช้างสีดอ ซึ่งเป็นช้างที่ค่อนข้างดุร้ายรวมอยู่ในโขลงนี้ด้วยอาจจะเป็นตัวที่ทำร้ายชาวบ้านรายนี้ก็เป็นได้ เพราะในช่วงหน้าแล้งในพื้นที่สลักพระจะเกิดปัญหาช้างกับคนเกือบทุกปี

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระก็ได้มีการติดป้ายห้ามเข้า รวมถึงเข้าหน้าที่คอยตรวจตราตลอดเวลาห้ามให้ชาวบ้านเข้าไปหาของป่า แต่เนื่องจากมีช่องทางลักลอบเข้าไปหลายจุดเจ้าหน้าที่อาจจะไม่สามารถดูแลได้ตลอดจึงเกิดปัญหาเช่นนี้ตามมา จึงขอฝากเตือนประชาชนอย่าเดินทางเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระเด็ดขาด เนื่องจากในป่าสลักพระจะมีสัตว์ดุร้ายนานาชนิด ท่านอาจจะเคราะห์ร้ายแบบรายนี้ก็ได้ อีกทั้งการลักลอบเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย