วันนี้ ( 5 ก.ค. 62)  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ชุมชนหมู่ที่ 2 บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลสังขละบุรี บูรณาการความร่วมมือจาก เทศบาลตำบลวังกะ นักเรียนจากโรงเรียนวัดวังก์วิเวการาม อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนจิตอาสา กว่า 150 คน จัดกิจกรรมรณรงค์กวาดล้างลูกน้ำยุงลาย ภายใต้โครงการควบคุมและป้องกันโรคไข้เลือดออกในชุมชน โดยการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลวังกะ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาไข้เลือดออกเป็นปัญหาที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของอำเภอสังขละบุรี ซึ่งจากสถิติพบผู้ป่วย 3 ปีย้อนหลัง ในเขตเทศบาลตำบลวังกะ ได้แก่ ปี 2559 จำนวน 59 ราย ปี 2560 จำนวน 33 ราย และ ปี 2561 จำนวน 11 ราย ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน ปี 2562 ตั้งแต่เดือน มกราคม - กรกฎาคม พบผู้ป่วยแล้ว จำนวน 100 ราย และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมป้องกันและควบคุมโรคในบ้านของตนเอง จึงได้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายด้วยการแบ่งกลุ่มออกสำรวจบ้านทุกหลังในชุมชน พร้อมแจกทรายอะเบท รวมถึงการรณรงค์ให้ทุกบ้านปฏิบัติตามมาตรการ 3 เก็บ คือ เก็บขยะเศษภาชนะขังน้ำ เก็บบ้านให้ปลอดโปร่งยุงลายไม่เกาะพัก เก็บน้ำกินน้ำใช้ให้มิดชิด 5 ป. คือ ปิดภาชนะน้ำขัง ปล่อยปลากินลูกน้ำ เปลี่ยนน้ำในภาชนะทุก 7 วัน ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในและรอบบ้าน ปฏิบัติเป็นประจำจนเป็นนิสัย และ 1 ข. คือ ขัดภาชนะก่อนเปลี่ยนน้ำกำจัดไข่ยุง

ทั้งนี้เนื่องจาก อ.สังขละบุรี เข้าสู่ฤดูฝนและมีฝนตกอย่างต่อเนื่องเข้าสู่เดือนที่ 2 ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาและมีพื้นที่ตอดต่อกับประเทศเมียนมา ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออกอย่างหนัก ส่งผลให้ ทุกวัน รพ.ต้องรับมือคนไข้ที่มารับบริการตรวจถึงวันละ 300-400 คน โดยมีคนไข้ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเฉลี่ยวันละ 50-60 เตียง ขณะที่โรงพยาบาลสังขละบุรีเป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง การออกมารณรงค์ให้ความรู้ของเจ้าน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนหนึ่งการการทำงานด้านการป้องกัน เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่จะเกิดจากโรคไข้เลือดออก ที่จะเกิดขึ้นและกระตุ้นให้ประชาชนเข้าใจและป้องกันการแพร่ระบาดได้อีกทาง