"ทหาร" ช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนชาวอำนาจเจริญ หลังถูกพายุลูกเห็บถล่ม
23 เม.ย. 2563, 19:46
จากกรณีที่ จ.อำนาจเจริญ เกิดพายุลูกเห็บถล่มอำนาจเจริญเสาไฟฟ้าแรงสูงกว่า 20 ต้น 2 ข้างทางหักโค่น บ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน ใน 4 อำเภอ ไฟฟ้าดับตลอดสาย เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 22 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
โดยเช้าวันนี้ (23 เมษาบน 2563) ทางด้าน นายกฤษฎิ์ พูนเกษม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทาง นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ออกช่วยราษฎรที่ประสบวาตภัยดูแลเบื้องต้นแล้ว จากสาเหตุที่ได้เกิดเหตุวาตภัยขึ้นในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยเช้านี้ทางการไฟฟ้าอำนาจเจริญ บอกว่า ค่าเสียหายในการที่เสาไฟฟ้าหักโค่นล้มในครั้งนี้ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท รวมทั้งที่หักล้มในศูนย์ราชการมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาอำนาจเจริญ อีกด้วย ทางการไฟฟ้าได้ระดมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าออกซ่อมแซมไฟฟ้าให้ใช้การได้เร็วที่สุดตลอดทั้งวัน เพราะประชาชนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ต่างได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะฉะนั้นทางการไฟฟ้าต้องเร่งซ่อมแซมเสาไฟที่หักโค่นนำมาเปลี่ยนให้แล้วเสร็จและปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนได้ใช้ต่อไป
ส่วนทางด้าน พันเอกวรการ ฮุ่นตระกูล ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทับไทย ได้นำกำลังพลออกให้การช่วยเหลือโดยการทำกิจกรรมจิตอาสาซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่โดนพายุลูกเห็บพัดเสียหายที่บ้านดอนแดง ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จำนวน 80 หลังคาเรือน ตลอดทั้งวันโดยการซ่อมแซมมุงหลังคาให้ใหม่เกรงว่าอาจเกิดพายุหมุนขึ้น อีกชาวบ้านจะไม่มีที่หลับนอน ซึ่งใช้กำลังพลที่มีทั้งหมดกว่า 20 คน และจะกระจายออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยวาตภัยในครั้งนี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะแล้วเสร็จทางทหารหน่วย นพค. 51 เราเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ทางด้าน นายธนัญชัย สายสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ เขต 1 กล่าวว่า ในช่วงนี้ตามโรงเรียนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในที่โล่งแจ้งจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูแล้งทุกปีระยะนี้โรงเรียนอยู่ในช่วงปิดภาคเรียนยาว จึงฝากถึงผู้บริหารโรงเรียนทุกโรงเรียนให้กำชับครูเวรนักการภารโรงให้เฝ้าระวังพายุฤดูแล้งอันจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาเนื่องจากอากาศที่จังหวัดอำนาจเจริญมีอุณหภูมิสูงมากบางวันสูงถึง 40 องศา ตนจึงฝากให้ดูแลเอาใจใส่หากโรงเรียนใหนอยู่ใกล้ต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ตัดกิ่งก้านสาขาออก อันอาจจะพัดกิ่งก้านปลิวมาทับอาคารเรียน โรงฝึกงานหรือโรงอาหารได้เสียหายได้ และตรวจสอบความแข็งแรงของโรงเรือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียน โรงรถ เรือนเพาะชำ อาคารเอนกประสงค์ หากไม่แข็งแรงให้รายงานให้ตนทราบเพื่อที่จะทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาวะที่แข็งแรงใช้การได้ และหากเกิดวาตภัยขึ้นที่โรงเรียนได้รับความเสียหายให้รีบรายงานให้ตนทราบทันที