ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า น.ส.ศรันย์รัชต์ คำจันทร์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/27 หมู่ที่ 1 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของแผงขายกางเกงและผลไม้ นำธนบัตรฉบับหนึ่งพันบาทปลอม หมวดอักษร 8 จ 9603998 ที่ได้รับจากลูกค้าขณะขายเสื้อผ้า ที่ตลาดศรีไชยา ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากในช่วงเช้าของวันที่ 19 เม.ย. ขณะที่ได้นำเสื้อผ้ากางเกงออกมาขายล้างสต็อกในราคาตัวละ 50 บาท ซึ่งมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อจำนวนมากจึงไม่ทราบว่ารับแบงค์พันปลอมมาจากลูกค้าคนไหน และมาทราบอีกครั้งในช่วงบ่ายขณะที่กำลังนับเงินเพื่อที่จะนำไปฝากตู้ธนาคารได้สังเกตแบงค์ดังกล่าวมีลักษณะแปลกๆ เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า เป็นแบงค์พันปลอม จึงได้นำมาเตือนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดให้ตรวจสอบดูให้ดีก่อนที่จะรับเงินจากลูกค้า ส่วนตัวไม่ได้ไปแจ้งความ อะไรถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ และจะนำไปทำลายต่อไป

 

         

 

ด้านพ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้จับกุมผู้ต้องหาลักลอบทำแบงค์พันปลอมขายให้กับกลุ่มยาเสพติด ที่ทำขายไปแล้วประมาณ 40 ฉบับ และคาดว่าอาจจะมีบางส่วนที่ได้นำออกมาใช้ในท้องตลาด จึงฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชนให้ตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะรับเงินจากลูกค้า และห้ามนำออกมาใช้เพราะจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และอาจจะถูกดำเนินคดีได้ต่อไป

ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ได้ทำการจับกุมนักศึกษา ทำแบงค์ปลอม 5 หมื่นบาท ขายให้กลุ่มยาเสพติดในราคาหนึ่งหมื่นบาทจนถูกเจ้าหน้าที่จับได้พร้อมของกลางธนบัตรปลอมชนิดหนึ่งพันบาท จำนวน 50 ใบ หรือ 5 หมื่นบาท เครื่องปริ้นเตอร์จำนวน 1 เครื่อง เนื่องจาก ผู้ต้องหาคือ นายฤทธิ์ชัย ผู้ต้องหามีพฤติกรรมลักลอบทำธนบัตรปลอมขายให้กับขบวนการค้ายาเสพติดจึงได้วางแผนทำการล่อซื้อธนบัตรปลอม หมวดอักษร ก 2439008 เป็นเงิน 5 หมื่นบาท ในราคา 1 หมื่นบาท โดยได้นัดหมายให้มาส่งในพื้นที่ตำบลบางกุ้ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตามไปตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

และให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาลัยชื่อดังอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และได้ทำธนบัตรใบละหนึ่งพันปลอมขายให้กับกลุ่มยาเสพติดที่รู้จักกัน ที่มาขอซื้อในราคาฉบับละ 200 บาท และเมื่อต้นเดือนได้ส่งธนบัตรปลอมไปขายให้กับกลุ่มยาเสพติดในพื้นที่อำเภอไชยาจำนวน 3 หมื่นบาท เพียงครั้งเดียว แต่ในวันที่ถูกจับ เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อล่อซื้ออีกจำนวน 5 หมื่นบาท และได้มีธนบัตรปลอมชนิด 1,000 บาท หลุดไปไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท แม้ว่าจะเป็นเงินที่ไปอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติด แต่ก็เชื่อว่าเงินดังกล่าวจะหมุนกลับมาอยู่ในระบบซื้อขายทั่วไป