เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 3 เม.ย. 63 ที่ผ่านมาที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.อดุลย์ เง๊าะ รอง ผกก.ป.สภ.เบตง พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ขุนบรรเทิง รอง ผกก.สส สภ.เบตง พ.ต.ท.ภุชงค์ สงวนจิตร สว.สส.สภ.เบตง พ.ต.ท.สรรณ์เพชร ทองซุ่นห่อ สว.อก.สภ.เบตง ร่วมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรมเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมออกตรวจตรา ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชาชนรับทราบ ห้วงการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 22.00 ถึง 04.00 น. โดยมี พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเบตง พ.ต.ท.อดุล เง๊าะ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเบตง พ.ต.ท.ธนกฤต กองคำ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ร.ต.อ.ณัฐวรรธน์ สงคง รองสารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 3 กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

 

พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ภายหลังเกิดสถานการณ์การโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ระบาด ต่อเนื่อง และได้ทวีความรุนแรงขยายวงกว้างมากขึ้น ทำให้รัฐบาลจึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินราชอาณาจักรโดย มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึง 30 เมษายน 2563 และต่อมาได้มีการประกาศเคอร์ฟิว หรือ ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 22.00 ถึง 04.00 น. นั้น โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เมษายน 2563 เพื่อเฝ้าระวัง และเป็นการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการ บริษัท ห้างร้าน จำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราวตามคำสั่งของผู้ราชการจังหวัดยะลาและทำให้ เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ในทุกพื้นที่ ส่งผลให้มีแนวโน้มปัญหาของอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นสืบเนื่องจากประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทาง สถานีตำรวจภูธรเบตง จึงได้บูรณาการกำลัง 4 ฝ่าย ปฏิบัติการเชิงรุกในห้วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างเครือข่ายในการป้องกันอาชญากรรม ระดมการกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบเพื่อทำให้ในพื้นที่อ.เบตง มีความปลอดภัย และเป็นการป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะธนาคาร ห้างร้าน ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ และสถานประกอบการที่สุ่มเสี่ยงอื่ โดยมีเป้าหมายในการปฏิบัติโดยตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเส้นทางหลัก c]tเส้นทางรอง ทำการตรวจคันบุคคล ยานพาหนะ ตลอดจนจำกัดเสรีของกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรง ทำการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับคดีความมั่นคง คดีค้างเก่า อาวุธปืน วัตถุระเบิด สิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นปัจจัยในการก่อเหตุกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มวัยรุ่น มั่วสุมที่มีพฤติการณ์เป็นนักเลง อันธพาลเป็นภัยต่อสังคมทำการประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการ ร้านค้า หมู่บ้านจัดสรรร้านสะดวกซื้อ โดยได้กำชับให้รักษาความปลอดภัย ตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิด รวมทั้งแนะนำ การสังเกต จดจำตำหนิ รูปพรรณ และยานพาหนะต้องสงสัย การบันทึกภาพของคนร้ายและ ผู้ต้องสงสัยด้วยโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งการแจ้งข้อมูลบุคคล ยานพาหนะที่มีพิรุธ หรือผู้ต้องสงสัยและประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับการประกาศเคอร์ฟิว และการป้องกันตนเองจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในครั้งนี้ด้วย