เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ไอเดียเจ๋ง ! รัฐวิสาหกิจฯ หันมาปลูกข้าวอินทรีย์ สร้างรายได้ให้กลุ่มส่งเสริมอาชีพ แถมกินแล้วสุขภาพดี


22 ก.พ. 2563, 09:52



ไอเดียเจ๋ง ! รัฐวิสาหกิจฯ หันมาปลูกข้าวอินทรีย์ สร้างรายได้ให้กลุ่มส่งเสริมอาชีพ แถมกินแล้วสุขภาพดี




วันที่ 22 ก.พ.63 ชมอีกหนึ่งความสำเร็จของการทำนาเกษตรอินทรีย์ ที่ไม่ใช้สารเคมีก็อยู่รอดได้ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อ หมู่ที่ 5 ตำบลป่าอ้อ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี หลังตัดสินใจทิ้งการทำนาแบบเดิมๆ และพากันรวมกลุ่มประมาณ 20 คน ปลูกข้าวแบบอินทรีย์ ในพื้นที่ 210 ไร่ จนได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ หรือมาตรฐานออแกนิคไทยแลนด์ ซึ่งเป็นการปลูกข้าวที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ จากความคิดที่อยากให้ทั้งคนทานข้าวและคนปลูกข้าว หลุดออกจากวงจรสารพิษและสารเคมี จนปัจจุบันมีสมาชิกในการรวมกลุ่มแล้วประมาณ 50 คน พื้นที่ปลูกข้าว อินทรีย์ จำนวน 210 ไร่

 

 



นายมังกร พื้นพงษ์พัฒน์ อายุ 52 ปี ผู้ประสานงานฝ่ายตลาด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อ หมู่ที่ 5 ตำบลป่าอ้อ เล่าว่า ตนเองและเพื่อนๆในหมู่บ้าน ได้รวมกลุ่มกันประมาณ 20 คน ทำการเปลี่ยนจากการปลูกข้าวทั่วไป เป็นการปลูกข้าวแบบอินทรีย์ โดยทำการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ประมาณ 110 ไร่ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ประมาณ 100 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 210 ไร่ โดยทุกแปลง จะได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ หรือเรียกว่า มาตรฐานออแกนิคไทยแลนด์ ซึ่งเป็นการปลูกข้าวที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เช่น ปุ๋ยเคมี สารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลง ในทุกขั้นตอนการผลิตจนถึงการเก็บรักษา หากจำเป็นต้องใช้ จะแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือตกค้างในผลผลิต

ซึ่งแรงบันดาลที่ทำให้มีการปลูกข้าวอินทรีย์นั้น เกิดจากที่ตนเองมองเห็นประโยชน์ของการบริโภคข้าวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งตนเองและคนในชุมชน เพราะการปลูกข้าวในทุกวันนี้มีการใช้สารเคมีกันมาก ทำให้ร่างกายได้รับสารเคมีทั้งจากการฉีดพ่นสารเคมีในไร่นา และสารเคมีที่ตกค้างในผลผลิต ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพทรุดโทรม ระบบนิเวศน์แย่ จึงทำให้เกิดการเริ่มรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อขึ้นมาดังกล่าว 

 


โดยตั้งแต่ ปี 2556 ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรอำเภอลานสัก ในการจัดตั้งกลุ่ม และได้รับการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์จากกรมการข้าว ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ มีการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยเริ่มปลูกตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน เก็บเกี่ยวเดือน กุมภาพันธ์ กำจัดวัชพืชโดยใช้แรงงานคน ใช้น้ำหมักชีวภาพ เป็นฮอร์โมนบำรุงต้น ช่วงข้าวออกรวงใช้ฮอร์โมนไข่ เพื่อเพิ่มปริมาณแป้งในรวงข้าว  ผลผลิตเฉลี่ย 40 ถังต่อไร่  จำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ 30 บาท/กก. สีเป็นข้าวกล้องบรรจุถุงสุญญากาศ ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 70 บาท ข้าวซ้อมมือ กิโลกรัม ราคา 50 บาท ข้าวสารหอมมะลิอินทรีย์ บรรจุ 5 กิโลกรัม ราคา 250 บาท  นอกจากนี้กลุ่มยังมีการแปรรูปเป็นไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่ และไวท์ข้าว โดยมีการจดทะเบียนขออนุญาตผลิตและจำหน่ายได้ถูกต้องตามกฎหมาย บรรจุขวดและกล่องที่สวยงาม ซึ่งได้รับการสนับสนุนกล่องบรรจุภัณฑ์และถุงผ้า จากสำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี

ในปัจจุบัน ทางกลุ่มยังได้รับการจัดตั้งให้เป็นศูนย์เครือข่าย ศพก. ด้านการปลูกข้าวอินทรีย์ ของอำเภอลานสัก เพื่อให้เกษตรกรที่สนใจเข้ามาเรียนรู้และนำไปปรับใช้ในอาชีพการทำนา เพื่อรักษาสุขภาพคนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเป็นการลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยในปีที่ผ่านมา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อ มีรายได้ประมาณ 380,000 บาท นายมังกร กล่าว

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.