วันนี้ ( 17 กุมภาพันธ์ 2563 ) ผู้สื่อข่าว ONB news เดินทางไปพบกับ นางสาว ภิรัญญา ไวยนิตย์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 ต.บางปะแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้เสียหายที่เธอยังอยู่ในอาการมึนงง และหวาดผวา พร้อมเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปเดินซื้ออาหารกิน ที่บริเวณตลาดนัดสินธิวาธานี หมู่ 2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งกำลังจะกลับบ้านเดินมาขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่ ก็ได้มีแก๊งผู้หญิง 3 คน อายุประมาณ 40 – 50 มาใช้อุบายตามหากระเป๋า โดยสร้างสถานการณ์คนแรกทำทีเดินเข้ามาหาและทำทีเป็นทำกระเป๋าสตางค์สีชมพูหล่นหาย โดยถามว่าตนเองเห็นหรือเปล่า ตนเองบอกไม่เห็น คนแรกก็เดินออกไป มีผู้หญิงอีกคน ผมสั้นใส่แมสปิดบังใบหน้า เข้ามาพูดคุย และบอกว่าเป็นคนเห็นคนที่เก็บกระเป๋า สตางค์ได้ ตนเองจึงบอกให้ไปแจ้งประชาสัมพันธ์ตลาด หรือเดินไปดูที่ร้านต้มแซ่บ กระทั่ง มีผู้หญิง คนที่สามเดินมาจากด้านหลัง แล้วเขามาพูดคุยกันอยู่สักพักผู้หญิงคนที่ 3 ก็เอามือมาจับที่แขนของตนเอง

จากนั้นตนเองก็เดินตามทั้งคู่ไป โดยขณะนั้นไม่รู้สึกตัว แต่มีความรู้สึกว่า มีคนพยายามมาดึงที่คอเสื้อตนเอง เหมือนพยายามมจะหาของมีค่า แต่ก็ไม่รู้สึกตัวจนตนเองเดินกับมาที่รถ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ตนเองรู้สึกตัว และมองไปที่นิ้วมือ ก็ตกใจว่าแหวนทอง ครึ่งสลึงที่ใส่อยู่ที่นิ้วหายไป แต่กลับมีกระเป๋าผ้า สีขาวมาแทน เปิดดูด้านใน พบ ถุงเท้า 1 คู่ ห่อเหรียญบ้านไว้ประมาณ 10 บาท และมีถุงข้าว 1 ถุง  ตนเองตกใจมาก จึงโทรหาแฟน แล้วไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ตลาดก็สามารถจับภาพขณะแก๊งตกทองทำทีเข้ามาพูดคุยกับตนเองไว้ได้ และตนเองเชื่อว่า แก๊งคนร้ายได้ดูลาดเลาไว้แล้ว เพราะตนเองจำได้ว่ายืนซื้อต้มแซ่บที่ร้านเดียวกัน คนร้ายเห็นว่าตนเองมาคนเดียว จึงเดินมาประกบเพื่อก่อเหตุ

 

 

ส่วนเรื่อง ที่มีแก๊งตกมองป้ายยานั้นตนเองเคยเห็นแต่เพื่อนบ้านโดน แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อว่า จะมีแก๊งป้ายยา จนกระทั่งมาเจอกับตัวเอง ตนเองไม่รู้ว่าถูกป้ายยาหรือป่าว รู้เพียงว่าไม่รู้สึกตัวเองขณะที่เดินไปกับแก๊งคนร้าย

เบื้องต้น ตนเองได้นำภาพกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ไว้แล้วที่ สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน เพื่อติดตามหาคนร้ายรายนี้ ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากเตือน ช่วงนี้มีแก๊งคนร้ายตกทองอาละวาด   พยายามอย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้า หรือไปไหนเพียงคนเดียว เพราะมันจะเป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพ เข้าก่อเหตุได้ ถ้าใครพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวหรือน่าสงสัยให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนกับผู้อื่นอีก