จากกรณีที่ นายทองสุข   สุรสิงห์  คนงานเฝ้าป่าของสวนป่าละเอาะ ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ได้ใช้จอบกระหน่ำตี นายสายชล  ศรีวีระ อาชีพนักการภารโรงของ ร.ร.ชื่อดังแห่งหนึ่งของ อ.น้ำเกลี้ยง นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักคนงาน  สภาพศพโดนของมีคมทุบตีบริเวณศีรษะจนเละ ใกล้ที่เกิดเหตุพบจอบเปื้อนเลือดถูกวางทิ้งอยู่   ซึ่ง ตร.สภ.น้ำเกลี้ยงสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้  เนื่องจากว่า นายทองสุข เมาเหล้าอย่างหนัก  และรับสารภาพได้ใช้จอบกระหน่ำตีนายสายชล จนเสียชีวิตจริง  เนื่องจากโกรธที่นายสายชลให้ตนกลับมาบ้านแต่ว่า ตนอยากกินเหล้าต่ออีก ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา  07.00 น. วันที่ 7 ก.พ. 63   ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านน้ำเกลี้ยง ตำบลน้ำเกลี้ยง อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านที่บ้านอยู่ใกล้กันกับบ้านของนายทองสุข สุรสิงห์ ซึ่งเป็นฆาตกรโหดใช้จอบกระหน่ำตีฆ่านายสายชล    ศรีวีระ  นักการภารโรง ร.ร.ชื่อดังของอำเภอน้ำเกลี้ยงปรากฏว่าชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญชาวบ้านน้ำเกลี้ยงเป็นอย่างมากซึ่งชาวบ้านต่างพากันหวาดผวาเพราะเป็นเหตุการณ์ที่โหดเหี้ยมมากและเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากว่าคนตายและฆาตกรเป็นคนบ้านเดียวกันรู้จักกันมาก่อน แต่เพราะว่า นายทองสุข กินเหล้าเมาจึงทำให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมา

นายบุญศรี  พานงาม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 1 บ้านน้ำเกลี้ยง ต.น้ำเกลี้ยง เพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกับฆาตกรโหดรายนี้ กล่าวว่า ปกติแล้วนายทองสุขจะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ค่อยพูดแต่เมื่อใดที่กินเหล้าเข้าไปแล้วจะมีนิสัยโหดร้าย ใครพูดอะไรผิดหูหรือไม่ถูกใจก็จะใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายกันเป็นเช่นนี้โดยตลอดทำให้เป็นที่เอื้อมระอาของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงและไม่มีใครอยากเข้าไปสุงสิงด้วยเนื่องจากว่ากลัวอารมณ์ร้ายของ  นายทองสุข  อย่างมาก 

ทางด้าน นางสาวทองพูน  สุรสิงห์ อายุ 53 ปี น้องสาวของนายทองสุขคนร้ายรายนี้ กล่าวว่า ปกติแล้วพี่ชายเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปี 2540 พี่ชายของตนได้ก่อเหตุใช้มีดตะขอฟันคอพี่เขยและเพื่อนพี่เขย เสียชีวิตคาบ้านมาแล้ว นายทองสุข เพิ่งออกจากคุกมาได้ประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาโดยขณะนี้นายทองสุขได้เลิกราจากภรรยานานประมาณ 20 ปีแล้ว มีลูกชายหนึ่งคนอยู่ในความดูแลของภรรยาซึ่งนายทองสุขเมื่อดื่มเหล้าก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างโมโหร้าย ส่วนตนก่อนหน้านี้ทำงานอยู่กรุงเทพและได้ลาออกจากงานมาเพื่อมาดูแลแม่ของตนและเป็นแม่ของนายทองสุข  โดยขณะนี้แม่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์จำอะไรไม่ได้ส่วนเรื่องคดีความนั้น ตนคงไม่ได้ไปประกันตัวนายทองสุกเนื่องจากว่าไม่มีเงินก็คงต้องปล่อยให้ไปตามกระบวนการของกฎหมาย ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่านายทองสุขก็อายุมากแล้วน่าที่จะเป็นเสาหลักดูแลครอบครัวไม่น่าจะมาก่อเหตุฆ่าคนตายอีก