จากกรณีดราม่าในครอบครัวของอดีตนางเอกสาว กุญแจซอล ป่านทอทอง เพราะเจ้าตัวหายออกจากบ้าน ไปแต่งงาน มีครอบครัวใหม่ ใช้ชีวิตอยู่กับสามีหนุ่ม กัปตันณัฏฐ์ จนมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ก่อนที่ทางคุณพ่อ หนึ่ง นึกคิด และ คุณแม่มุกดา จะออกมาประกาศตัดขาดกับ กุญแจซอล เพราะไม่พอใจที่ทางฝั่งสามีของลูกสาวกีดกันไม่ให้เจอหลาน

           กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ กุญแจซอล ป่านทอทอง พร้อมสามี และลูกชาย ได้มานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับคุณแม่มุกดา ในรอบ 2 ปี จนหลายคนจับตาว่า ครอบครัวได้ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า ล่าสุด คุณพ่อ หนึ่ง นึกคิด ก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้

- น้องซอลเขากลับมาเพราะได้ข่าวว่าคุณแม่ป่วย ก็เลยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
- ตนยังไม่ได้เจอเขา วันเด็กก็ยังไม่ได้ถ่ายรูปกับลูกกับหลานเลย เพราะตนทำงาน แต่ก็ดีใจที่เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมคุณแม่
- หลัง ๆ ที่น้องซอลเขามาเยี่ยมคุณแม่ ก็ได้เจอกันบ้าง เจอกับหลาน
- อดีตที่มันผ่านไป ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเลยแล้วกัน ก็เป็นความทรงจำที่ดี ไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้แล้ว ก็ต้องมองถึงปัจจุบันและอนาคต อยู่เป็นกำลังใจให้คุณแม่ เพราะคุณแม่ไม่สบาย กำลังใจที่ดีที่สุดก็คือครอบครัว ก็อยากจะให้เขาแข็งแรง ได้เห็นลูกเห็นหลาน ก็ดี ยังไงก็เป็นสายเลือด รู้สึกดีใจ

 

- กับกุญแจซอล ยังไม่ได้คุยอะไรที่มันลึก อยู่ในขั้นปรับตัวกันอยู่ ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย
- ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กับครอบครัว ทุกคนดีใจแทนครอบครัว ที่ได้เห็นภาพนั้นกลับมาอีกครั้ง
- ตนไม่ได้โกรธ ไม่ได้ทิฐิอะไร ตอนนั้นสามีของกุญแจซอลก็มา แต่ไม่ได้เจอตนเท่านั้นเอง

 

 -ตอนนี้เราโฟกัสที่การป่วยของคุณแม่มากกว่า เพราะป่วยมา 2 เดือนแล้ว ภรรยาปวดท้องหนักมาก ลูก ๆ พาไปโรงพยาบาล พบก้อนเนื้อ 2 ก้อน ก็ผ่าตัดไปเรียบร้อย แต่หมอยังไม่ให้กลับบ้าน ขอไปตรวจชิ้นเนื้อก่อน แล้วพบว่าเป็นมะเร็งระยะ 4 ซึ่งลุกลามเยอะมาก เราก็ตกใจ ก็บอกลูกว่าเป็นกำลังใจ เดี๋ยวพ่อเสร็จงานแล้วจะรีบไป

- คุณหมอก็ให้แอดมิต ผ่าตัดใหญ่ 6 ชั่วโมง เราก็ใจคอไม่ดี กระทั่งออกจากห้องผ่าตัดมา หมอก็ไม่ให้เยี่ยม รุ่งเช้ามาฟังผล ว่าเคสมะเร็งที่เป็น เป็นเคสที่แปลก น่าศึกษา เพราะไม่มีอาการบ่งบอกเลย ได้เอาเชื้อมะเร็งส่วนใหญ่ออกไปแล้ว แต่ยังเหลือที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาจจะลุกลามไปส่วนอื่นได้ ก็พักฟื้น 20 กว่าวัน ช่วงนั้นกุญแจซอลรู้ข่าวก็ไปเยี่ยม

-พวกเราก็ให้กำลังใจ ทำทุกอย่าง ก็ดีวันดีคืน ก็ปรึกษาคุณหมอเรื่องทำคีโม ตอนนี้ครั้งที่ 2 จะต้องทำทั้งหมด 8 ครั้ง ค่าใช้จ่ายก็สูงเหมือนกัน แต่ก็สู้เพื่อคนที่เรารัก เพื่อน ๆ คนที่รู้ข่าวก็ให้กำลังใจ เราก็ขอบคุณ

- ตอนนี้กำลังใจสำคัญที่สุด ตนก็อยู่ได้เพราะครอบครัว เราก็พยายามหมั่นทำบุญ พยายามคิดบวก ตั้งสติ มีสมาธิ และให้กำลังใจกัน