แม่ผู้เสียชีวิตรอครบ 1 ปี ตร.ไม่สรุปคดีลูกชายตัวเองถูกตอบกลับว่ารอก่อนคดีเยอะ
30 ม.ค. 2563, 14:56
วันที่ 30 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีนายอำพันธ์ หรือไข่ วิเชียรรัตน์ อายุ 37 ปี เจ้าของสวนทุเรียน อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 14 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนพร้อมสะพายอาวุธปืนยาวขนาด .22 (ปืนลูกกรด)ติดตัวไปด้วยของช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค.62 หลังถูกเพื่อนชักชวนออกยิงสัตว์ป่าบนเทือกเขา “วางหลักแกะ”ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลครน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 10 กิโลเมตรและเพื่อนอ้างว่าได้พลัดหลงกันจนกระทั่งแจ้งชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยฯประมาณ 40 นาย ออกติดตามค้นหาคาดว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จนกระทั่งเช้าวันที่ 30 ม.ค.62 ชาวบ้านชุดค้นหาได้พบนายอำพันธ์เป็นศพมีร่องรอยถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนกลางหน้าผากนอน
หงายอยู่ริมหน้าผาบนยอดเขาโดยมีอาวุธปืนยาวขนาด .22ของผู้ตาย วางอยู่ใกล้ตัวส่วนญาติติดใจสาเหตุการตายเนื่องจากเคยมีเรื่องบาดหมางผิดใจกันมาก่อน แต่ระยะหลังพยายามชักชวนผู้ตายไปล่าสัตว์ป่าอยู่หลายจนผิดสังเกตุ และญาติไม่เชื่อคำให้การของเพื่อนรายนี้ วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีถึงสาเหตุที่แท้จริงแต่เวลาล่วงเลยมาครบ 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวี ยังไม่สามารถปิดสรุปสำนวนคดีได้ว่าตายด้วยสาเหตุอะไรกันแน่
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.63 นางกัญญา วิเชียรรัตน์ อายุ 64 ปี แม่นายอำพันธ์ หรือไข่ วิเชียรรัตน์ ผู้ตาย พร้อมนายพัฒน์ฯ ผู้เป็นพ่อ นายชุมพลฯพี่ชาย และน.ส.ธิดารัตน์ฯ พี่สะใภ้ ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่าเป็นไปไม่ได้ถึงมูลเหตุที่นายอำพันธ์จะคิดยิงตัวเองตาย แต่เชื่อว่าถูกฆาตกรรมมากกว่า เนื่องจากนายอำพันธ์ผู้ตายถูกเพื่อนคนดังกล่าวโกงเงินส่วนแบ่งค่าปลูกน้ำเต้าและปัญหาเรื่องรถที่ผู้ตายใช้ชื่อตัวเองออกรถให้เพื่อน แต่พ่อของเพื่อนเอาไปใช้ผ่อนบ้างค้างค่างวดบ้างทำให้มีหนังสือทวงถามค่างวดรถมาที่ผู้ตาย เมื่อผู้ตายทวงถามและบอกว่ารถกำลังจะโดนยึด ทำให้เพื่อนคนดังกล่าวไม่พอใจระหงระแหงมาโดยตลอด ระยะหลังได้แวะเวียนมาชักชวนไปยิงสัตว์ป่าทุกวัน จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค.62 ผู้ตายก็ยอมออกไปโดยเอาปืนยาว .22 (ปืนลูกกรด)ติดตัวไปด้วย จนกระทั่งผ่านไป 1 คืนกับ 1 วันพบเป็นศพถูกยิงแสกหน้าบนเทือกเขา
นางกัญญาฯแม่ผู้ตาย เล่าว่าหลังเกิดเหตุเสร็จสิ้นงานศพลูกชายก็ได้ติดตามทวงถามถึงความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอดแทบทุกเดือนแต่ไม่มีความคืบหน้าจนผู้กำกับและพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีย้ายและคนใหม่เข้ามาแทนล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นางกัญญาและนายพัฒน์ พ่อแม่ผู้ตาย เดินทางมาที่สภ.สวี อีก แต่ก็ได้รับคำตอบเดิมๆ “ให้รอ ยุ่ง คดีเยอะ ทำหลายคดี” นัดผัดผ่อนไปเรื่อย จนครบ 1 ปี “ตนเองติดใจการตายไม่เชื่อว่าลูกชายจะยิงตัวเอง เพราะเคยพูดกับแม่ว่าปีนี้ได้เงินขายทุเรียนแล้วจะซื้อรถและจะเปิดร้านเสริมสวยให้เมียด้วย คดีล่าช้ามากให้นึกถึงหัวอกแม่บ้าง แม่สูญเสียลูกและยังหลาน เมียเขาลูกยังเล็ก ขอให้ตำรวจสรุปคดีให้แม่ได้สบายใจว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรมกันแน่” แม่ผู้ตายบอกเล่าถึงความรู้สึก
ต่อมาวันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผู้กำกับการ (ผกก.)สภ.สวี คนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาปฏิบัติงานเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากติดราชการ