เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงพบคนจีนติดเชื้อโคโรนาในไทยเพิ่มอีก 6 ราย


28 ม.ค. 2563, 11:53



ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงพบคนจีนติดเชื้อโคโรนาในไทยเพิ่มอีก 6 ราย




เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงภายหลังการประชุมสรุปสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนาว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย (หญิง 2 ราย ชาย 4 ราย) มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ โดย 5 รายเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนอีก 1 รายเดินทางมาในกรุ๊ปเดียวกัน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 ครั้ง ได้ผลบวก รอเข้าคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอีกครั้งในบ่ายวันนี้ ทำให้ปัจจุบันไทยพบผู้ติดเชื้อทั้งหมดรวม 14 ราย ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้น กลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ยังอยู่โรงพยาบาล 9 ราย 

โดยมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 ถึง 27 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 136 ราย คัดกรองจากสนามบิน 29 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 107 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 55 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 81 ราย

สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 27 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 2,802 ราย ใน 13 ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 27 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 2,744 ราย เสียชีวิต 80 ราย 

ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

นายแพทย์สุขุม กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นและยกระดับระบบการคัดกรอง ผู้เดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยผู้โดยสารทุกคน ทุกเที่ยวบิน ที่เดินทางมาจากจีน จะผ่านการตรวจคัดกรอง ด้วยเครื่องวัดไข้อัตโนมัติเทอร์โมสแกนทุกรายบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้ยังเพิ่มจุดคัดกรองบริเวณประตูทางเชื่อมก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร กรณีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด

อย่างไรก็ตามขอให้ช่วยกันเฝ้าระวังและดูแลตัวเอง ให้ความร่วมมือกับทางการ หากพบนักท่องเที่ยวเป็นหวัดควรให้คำแนะนำไปพบแพทย์  ประชาชน นักท่องเที่ยว นักศึกษาหรือผู้เดินทางมาจากประเทศจีน มีข้อสงสัยโทรปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง 

กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริงโดยไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ ตามข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อฯ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค จะไม่ปิดบังข้อมูล จะแจ้งให้ทราบทุกราย และให้ยึดหลักการ “ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด” พร้อมขอให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ในระดับมาตรฐานสากล การคัดกรองได้ผลดี การรักษาได้ผลดี สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 

นายแพทย์สุขุม กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แม้ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค นักวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย ซึ่งไทยได้ติดตามความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยตนเอง ขอให้ทุกคนดูแลร่างกายให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกันกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย”

ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ ให้สามารถตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ด้วยเทคนิค Real-Time RT-PCR (IRT.PCR) มีความแม่นยำ เชื่อถือได้รู้ผลภายใน 3 ชั่วโมง เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนรักษา ช่วยให้มีความพร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดของโรค

ส่วนกรมอนามัย ขอแจ้งเตือนประชาชนที่ต้องอยู่ในกลุ่มคนหนาแน่น หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโรค ขอให้หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หากไม่สะดวกให้ใช้เจลล้างมือ ทั้งก่อนกินอาหารและหลังจากเข้าส้วม พร้อมสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ลดการสัมผัสและแพร่กระจายของเชื้อโรค

“ในวันนี้เราได้เชิญตัวแทนนักศึกษาภาคใต้ซึ่งจากกลับจากมณฑลเหอเป่ย (Hebei) ประเทศจีน มารับมอบอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้มีรายงานข่าวในบางสื่อว่า เดินทางมาจากเมืองหูเป่ย์ (Hubei) และมีอาการป่วย  กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า นักศึกษาทั้ง 13 คน ทุกคนสบายดี ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ไม่พบการติดเชื้อ เตรียมกลับบ้านที่ภาคใต้เย็นวันนี้” นายแพทย์สุขุม กล่าว

โดยบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันตนเอง สุขอนามัยส่วนบุคคล พร้อมแจกเอกสาร หน้ากากอนามัย บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และจะดำเนินการต่อเนื่องในพื้นที่ที่ประชาชนหนาแน่นทุกวัน เพื่อสร้างความตระหนัก ไม่ตระหนก เกิดความร่วมมือจากประชาชน

จากการตรวจคัดกรอง 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563  ถึง วันที่ 25 มกราคม 2563 จำนวน 31 เที่ยวบิน  จำนวน 21,522 คน และในวันที่ 24-27 มกราคม ได้คัดกรองเที่ยวบินจากกว่างโจวและฉางชุน 29 เที่ยวบิน  ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง  3,507 คน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศปิดการเดินทางสาธารณะที่เข้าออกเมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทุกช่องทาง และประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

-ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน

-ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย

-หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี

-หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด

-ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

-รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

-หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้









Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.