วันที่ 19 ม.ค. ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม  รับแจ้งเหตุมีรถ จยย.เกี่ยวเชือก  พลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บ  บริเวณถนนบำรุงเมือง ใกล้สี่แยกไฟแดงคลินิกหมอนิติพล   เยื้องร้านพงศกร (ด้านหลัง)  จึงประสานรถกู้ชีพ 1669  พร้อมรุดไปตรวจสอบ

     ห่างจากแยกไฟแดงดังกล่าว 50 เมตร พบรถ จยย.ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง ทะเบียน 1 กข 5120 นครพนม  สภาพรถพลิกคว่ำ  คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส  ทราบชื่อภายหลังคือนางจีราภรณ์ เชียงที วัย 45 ปี อยู่เลขที่ 211 ถนนประชาร่วมมิตร ชุมชนน้อยใต้ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม  มีบาดบาดแผลฉกรรจ์ที่ข้างศีรษะ เลือดไหลนองพื้น  เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาลห้ามเลือดเบื้องต้น  ก่อนรีบนำตัวส่งรักษาที่ รพ.นครพนม ในเวลาต่อมา

     ใกล้กันพบเชือกไนล่อนสีเขียวยาวประมาณ 2 เมตร ขาดและตกม้วนขดอยู่   เหนือพื้นผิวถนนสูงขึ้นไปราว 4-5 เมตร  พบป้ายผ้ายาวประมาณ 10 เมตร เป็นป้ายผ้าเชิญชวนร่วมงานเทศกาลตรุษจีน  ไทยจีน เวียดนาม จ.นครพนม ขึงอยู่ระหว่างเสาไฟฟ้า 2 ต้น  พบปลายผ้าป้ายดังกล่าวถลกม้วนเกี่ยวกับสายเคเบิ้ลหลายสาย  มีเชือกไนล่อนห้อยจากปลายไม้ที่ขึง  โรยลงมา 1 เมตรห้อยกึ่งกลางถนนยาวคล้ายบ่วงผูกคอ

     สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุรถทัวร์ 99 สีนำเงินขาว ทะเบียน  15-2803 กรุงเทพฯ เลขข้างรถ ม.4 ข 1081  มีนายคณิศร  รอดเนียม เป็นคนขับ  สันนิษฐานจะมาตอกบัตรบริเวณสำนักงานคิวรถ 99 เดิม ห่างจุดเกิดเหตุ 50 เมตร ขณะแล่นผ่านมุ่งหน้าไฟแดงจะไปเข้าคิวที่ บขส.นครพนม  เพื่อรับผู้โดยสารมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ  รถทัวร์ได้เกี่ยวเชือกจนป้ายผ้าสะบัด 

     ต่อมา นายประสิทธิ์ ชาวชายโขง  เด็กรถหรือคนขับมือสอง ได้ลงจากรถเพื่อปลดเชือกที่ห้อยระโยงออกจากตัวรถ  แต่ยังมีเชือกไนล่อนห้อยค้างยาวใกล้แตะขอบพื้นถนน  เป็นจังหวะที่รถ จยย.ของนางจีราภรณ์  แล่นออกจากบ้านจะไปตลาดสดช่วงเช้า  สายไฟที่ห้อยคล้ายบ่วง  เกี่ยวเข้ากับตัวและตัวรถ  รถ จยย.เสียหลักพลิกคว่ำ ศีรษะกระแทกพื้นไม่ได้สติ  ยังอยู่ในห้องไอซียู  อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน 

     ร.ต.อ.ชม กล่าวว่า  รถทัวร์คันนี้หลังเข้าคิวที่ บขส.นครพนม  แล้วมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ โดยไม่รู้ว่ามีประชาชนขับรถ จย..เกี่ยวเชือก ที่ห้อยและเก็บไม่มิดชิดได้รับบาดเจ็บสาหัส    หลังสอบปากคำพยานแวดล้อม  จะได้เรียกนายคณิศรและนายประสิทธิ์  มาสอบปากคำ  ว่าเกิดความประมาทเลินเล่อ  จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายหรือไม่  ซึ่งจะได้สอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

     ด้านชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุ  ต่างวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิคนขับรถทัวร์และเด็กรถ  ที่ไม่เก็บเชือกที่ห้อยระโยงรยางค์ให้ดี  ก่อนจะรีบขับออกไป  เป็นอุทาหรณ์ของความสะเพร่า โชคดีที่บ่วงดังกล่าว  ไม่คล้องคอทำให้ถึงแก่ชีวิต