"ผบ.ทหารสูงสุด" บวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ บก.กองทัพไทย
18 ม.ค. 2563, 14:29
วันที่ 18 มกราคม 2563 พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานจัดงานวันกองทัพไทย 2563 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรมหากษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทย ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทย
แต่เดิมนั้น กระทรวงกลาโหมได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายนของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย ต่อมาในปี 2523 ได้เปลี่ยนโดยให้ถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันกองทัพไทย และวันสถาปนากระทรวงกลาโหมลง 13 มิถุนายน 2513
ต่อมาในภายหลัง ได้มีนักประวัติศาสตร์หลายคนทำการตรวจสอบ และพบว่าวันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม แต่น่าจะตรงกับวันที่ 18 มกราคม ปีดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ทางราชการยังคงถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทยต่อไป จนกระทั่งวันที่ 22 สิงหาคม 2549 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ 25 มกราคม ของทุกปี เป็น วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม
ปัจจุบัน วันที่ 18 มกราคมของทุกปี จึงถือเป็น “วันยุทธหัตถี” “วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” หรือ ” วันกองทัพไทย ”
สำหรับวันกองทัพไทยในปีนี้ กองทัพไทย ได้แจ้งเชิญประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณของทหาร และตำรวจ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย ที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เวลา 16.00 น.
สำหรับการสวนสนามเทิดพระเกียรติฯ ครั้งนี้ถือเป็นการสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกในรัชสมัยปัจจุบัน โดยเหล่าทัพได้นำยุทโธปกรณ์เกือบทุกแบบที่มีประจำการเข้าร่วม ไม่ต่างจากสวนสนามแสนยานุภาพ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2539 ที่ลานพระราชวังดุสิต ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
การจัดกำลังสวนสนามฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 39 กองพัน จำนวน 6,812 นาย ประกอบด้วย
- กรมเดินเท้าสวนสนาม จำนวน 7 กรม กรมละ 4 กองพัน รวม 28 กองพัน
- กรมวิ่งสวนสนาม จำนวน 1 กรม 4 กองพัน
- กองพันทหารม้ารักษาพระองค์ จำนวน 1กองพัน
- กรมยานยนต์ จำนวน 2 กรม กรมละ 3 กองพัน รวม 6 กองพัน
นอกจากนี้ ยังได้จัดกำลังทางอากาศ จำนวน 37 เครื่อง ประกอบด้วย
- หมู่บิน AU-23 จำนวน 3 เครื่อง ทำการบินปล่อยควันสีรูปธงชาติ
- หมู่บินเฮลิคอปเตอร์ 4 เหล่าทัพ ทำการบินแบบหมู่ 6 และหมู่ 9
- หมู่เครื่องบินรบ ทำการบินแบบหมู่ 9 และหมู่ 10
ยุทโธปกรณ์ที่นำมาสวนสนาม
1. กองทัพบก
- ยานเกราะล้อยาง Stryker BTR-3E1
- รถถัง M60A3
- ปืนใหญ่ 105 มม.,155 มม.
- ปตอ. 35 มม.
- รถบรรทุกจรวด
- จรวดหลายลำกล้อง
- รถถัง OPLOT
- รถถัง VT-4
2.กองทัพเรือ
- รถสะเทินน้ำสะเทินบก AAVP
- ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1
- จรวด TOW
- ปืนใหญ่ 155 มม.
3. กองทัพอากาศ
- เครื่องบิน F-5 F-16 และ T-50
- Gripen JAS-39
- เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC 725