ผู้ใหญ่บ้านที่เข้าไประงับเหตุวัยรุ่นกว่า 10 คน บุกเข้าไปทำร้ายวัยรุ่นอีกหมู่บ้านตำบลเดียวกัน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เผยนาทีระทึกที่ต้องเผชิญกับกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนเพียงคนเดียว ระบุวัยรุ่นมีพฤติกรรมบ้าคลั่ง ทั้งใช้ปืนจ่อ ,มีดแทง ต้องแกล้งตะโกนหาชื่อตำรวจ เลยรอดมาได้หวุดหวิด

วันที่ ( 15 ม.ค. 63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท.ปรีดา เจริญราช สารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ นำตัวนาย ก (นามสมมติ) อายุ 18 ปี, นายสุขสันค์ ปักเคทัง อายุ 20 ปี และนายสุจินดา ศรีหาทุบ อายุ 26 ปี ทั้งหมดเป็นวัยรุ่นบ้านหนองแวงพัฒนา หมู่ 13 ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ มาสอบสวน พร้อมของกลางมีอาวุธปืนปากกาขนาด .38 อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนปืน และอาวุธมีดหนึ่งเล่ม

หลังจากเมื่อ 23.00 น. (14 ม.ค.) ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุพร้อมกับพวกอีก 10 คน บุกเข้าไปทำร้ายและใช้อาวุธปืน ยิงนายวรินธร ศรีโย อายุ 21 ปี ภายในบ้านเลขที่ 148 หมู่ 2 ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ จนทำให้ นายวรินธร เสียชีวิต และ นายไพพูล ศรีโย อายุ 53 ปี รับบาดเจ็บ ระหว่างเข้าไปห้าม

นายสุจินดา ศรีหาทุบ อายุ 26 ปี หนึ่งใน 3 ผู้ต้องหา ที่ถูกจับได้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เห็นรุ่นน้องบอกว่าให้ไปเป็นเพื่อน เพราะจะไปเคลียร์ปัญหากับวัยรุ่นในตำบลเดียวกันแต่คนละหมู่บ้าน เบื้องต้นทราบว่ามีการแชทหากันและท้าทายกัน น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิง เมื่อไปถึงกลุ่มวัยรุ่นก็บุกเข้าไปซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนี้

ขณะนางสมบัติ จำนงพันธ์ อายุ 44 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ เห็นกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาเร่งเครื่องเสียงดังบริเวณถนนหน้าบ้าน ก่อนจะพังประตูรั้วเข้ามา ตนจึงออกมาดู เห็นหลานตัวเองคือผู้ตาย วิ่งออกจากบ้านไปทางทุ่งนา ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด วัยรุ่นอีกกลุ่มได้เข้าไปทำร้ายพ่อผู้ตาย ตนตกใจกลัว จึงรีบปิดบ้านก่อน จนกระทั่งมาทราบว่ามีการยิงหลานตัวเองเสียชีวิต และทำร้ายข้าวของภายในบ้านได้รับความเสียหาย

ด้าน นายทรัพย์ เพาะไธสง อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ดอนกอก เล่าถึงช่วงเกิดเหตุว่า ตนอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และมีเสียงคนทะเลาะวิวาทกัน ตนจึงพกอาวุธปืนไปด้วย เมื่อเข้าไปถึงได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลืออยู่กลางนา ห่างบ้านประมาณ 100 เมตร ตนจึงเข้าไปใกล้ พบวัยรุ่นกว่า 10 คน ยืนอยู่หน้าบ้านผู้เสียหาย พร้อมจะบุกเข้าไปในบ้านอีก แต่เจ้าบ้านได้ปิดประตูเงียบ

จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้เข้ามาล้อมตนเอาไว้ และได้ยินเสียงผู้หญิงจากบ้านอีกหลังหนึ่งตะโกนว่า เป็นตำรวจ กลุ่มวัยรุ่นก็บอกให้ยิงเลย ตนตกใจวิ่งไปในที่สว่าง แล้วแสดงตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ตำรวจ อย่าเข้ามา ผมมีปืน ทันใดนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็ปรี่เข้ามาใช้อาวุธปืน 2 กระบอก มาจ่อที่หน้าอกและด้านหลัง และมีความพยายามจะแย่งเอาอาวุธปืนจากตนไป จากนั้นได้มีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น ใช้อาวุธปืนมาแทงบริเวณท้องของตน ตนจึงแกล้งล้มลงทับอาวุธปืนเอาไว้เกรงจะถูกแย่งเอาไป แต่ได้แย่งเอาโทรศัพท์ของตนไปด้วย จึงตะโกนชื่อตำรวจที่อยู่ในหมู่บ้าน กลุ่มวัยรุ่นจึงวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป การกระทำดังกล่าวถือว่าอุกอาจ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน