ด้วยความนิยมของคนในยุคนี้ที่หันมาใส่ใจสุขภาพ แหล่งที่มาของอาหารกันมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และที่สำคัญเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคเอง เราจึงหันมา ปลูกผักสวนครัว ไว้กินเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนเมือง หรือ ตามต่างจังหวัดก็หันมาเพาะปลูกผักปลอดสารในรั้วบ้านกัน แต่ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้พืชผักปลูกได้งอกงามดี นั่นคือการปลูกผักตามฤดูกาล 

 

 อย่างฤดูร้อนให้ปลูกพริกขี้หนู ต้นหอม คะน้า กวางตุ้ง เพราะทนกับสภาพอากาศ แล้งก็อยู่ได้  การปลูกผักในฤดูร้อน ผักที่สามารถปลูกในฤดูร้อนได้ต้องทนร้อนทนแล้งได้เป็นอย่างดี แต่ก็มักมีจำพวกผักสวนครัวบางชนิดก็ต้องหมั่นรดน้ำเป็นประจำ ทั้งเช้า-เย็น และต้องหมั่นพรวนดินให้ร่วนซุยอยู่ตลอดเวลา อาจต้องใช้การคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นด้วยฟางข้าวหรือเศษหญ้าร่วมด้วย

 

 

 ส่วน ฤดูฝน ควรปลูกกะเพรา มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย ผักกาด เนื่องจากผักพวกนี้ชอบความชุ่มฉ่ำ  การปลูกผักในฤดูฝน เหมาะกับการปลูกพืชผักมากเนื่องจากมีทั้งน้ำดีดินดี แต่อย่าลืมว่าวัชพืชก็เจริญเติบโตได้ดีเช่นกัน จึงต้องหมั่นถอนหรือ กำจัดวัชพืชเป็นประจำ เพื่อให้ผักสวนครัวของเราได้รับอาหารและเติบโตได้อย่างเต็มที่ หากปลูกพืชล้มลุกในพื้นที่โล่งก็ควรสร้างหลังคาหรือหาตาข่ายมาบังเพื่อลดแรงของน้ำฝนที่อาจทำให้พืชผักช้ำได้ และใช้ฟางหรือหญ้าแห้งมาคลุมดินเพื่อป้องกันการชะล้างหน้า เรื่องเชื้อราที่มักเจอในฤดูฝน ก็ให้ทำน้ำสมุนไพรที่มีรสขมและรสฝาด เช่น ผงฟ้าทะลายโจน กระเทียมตำแหลก มาผสมรวมกับน้ำ แล้วฉีดไปยังพืชผักหลังจากฝนตก เป็นวิธีโบราณที่ได้ผลดีมาก

 

 

ส่วนฤดูหนาว เป็นพืชที่ชอบอากาศเย็นอย่าง กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักชี เป็นต้น การปลูกผักในช่วงฤดูหนาว เป็นอีกหนึ่งฤดูที่พืชผักหลายชนิดมักมีผลผลิตที่ดี แต่ก็ต้องระมัดระวังอย่างมากในเรื่องของศัตรูพืชและโรคในพืชเช่นกัน ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการแพร่ระบาดของโรค อาจป้องกันและกำจัดด้วยน้ำหมักสมุนไพรธรรมชาติได้ เพียงแค่ทำตามปฏิทินการปลูกผักตามฤดูการแบบนี้ เกษตรกรก็จะมีผักกินได้ทั้งตลอดทั้งปี หรือแม้แต่จะนำมาขายก็สามารถขายได้เลยตลอดทั้งปีเลยทีเดียว