วันนี้ 27 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณศาลาขุนแผน ถนนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน  ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 พร้อมอ่านสารจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและมอบประกาศเกียรติคุณให้หน่วยงานที่สนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563  โดยมี นายธีระชาติ ไทรทอง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 จังหวัดกาญจนบุรี  พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาชน  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อปพร มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง 

 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สีนามิ สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทย โดยเฉพาะ 6 จังหวัดภาคใต้เป็นผลให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โศกนาฏกรรมครั้งนั้นได้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่ประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติเพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียจากภัยพิบัติ การเตรียมความพร้อมรับมือและป้องกันภัยพิบัติในเบื้องต้นด้วยตนเองและมีจิตสำนักด้านความปลอดภัยในการดำรงชีวิตทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศ พร้อมให้ทุกภาคส่วนร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างยั่งยืน 

  

พร้อมทั้ง จังหวัดกาญจนบุรีได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖3  โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ได้กำหนดแผนบูรณาการและมาตรการเพื่อลดความเสี่ยง 6 ด้าน รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563  เพื่อใช้เป็นกลไกในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ

 

ในส่วนของระดับพื้นที่ ได้กำหนดอำเภอที่มีความเสี่ยง เป็น 4 ระดับ ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีเหลือง  และสีเขียว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ โดยได้กำหนดมาตรการดำเนินการกับอำเภอที่มีความเสี่ยงสีแดง และสีส้มเพื่อเพิ่มความเข้มข้นเป็นพิเศษ โดยเน้นการบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครต่างๆ ปฏิบัติงานในจุดตรวจรอง หรือด่านชุมชน  เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม และตักเตือน บุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างเข้มข้น