ชาวบุรีรัมย์14 คน พร้อมพระสงฆ์ 2 รูป เดินทางมานั่งวิปัสสนากรรมฐาน ปลดปล่อยวิญญาณบริเวณโบสถ์ร้างวัดหนองเต่า
23 ธ.ค. 2562, 09:29
วันที่ 22 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณโบสถ์ร้าง วัดหนองเต่า หมู่ที่ 5 ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง พบชาวบ้านที่เดินทางมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 14 คน และพระสงฆ์ 2 รูป เดินทางมานั่งปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานวิปัสสนา โดยรอบโบสถ์ร้างวัดหนองเต่า ในยามค่ำคืน เพื่อปลดปล่อยวิญญาณที่อาศัยอยู่ในบริเวณโบสถ์ร้าง ให้ไปยังภพภูมิตามที่ได้สร้างไว้ หลังจากพบเรื่องราวความลี้ลับที่วัดหนองเต่า ที่มีเสียงดนตรีบรรเลงปี่พาทย์บรรเลง และหญิงสาวแต่งกายชุดไทย จำนวน 5 – 6 คน ออกมาร่ายรำก่อนเดินเข้าไปภายในโบสถ์ร้างอยู่เป็นประจำในยามค่ำคืน ซึ่ง นาย บุญชู แป้งนวล อายุ 66 ปี ที่มีบ้านอยู่ใกล้บริเวณโบสถ์ร้างอายุกว่า 100 ปี ที่วัดหนองเต่า ได้เห็นเป็นประจำ นอกจากหญิงสาว 5 – 6 คน ที่สวมชุดไทยออกมาร่ายรำยามค่ำคืน พร้อมเสียงบรรเลงปี่พาทย์แล้ว นาย บุญชู จะพบเห็นหญิงสาวแต่งชุดไทยสีแดงและสีเขียวสวยงาม และมีหน้าตาละม้ายคล้ายกัน เดินออกมาจาโบสถ์ร้างด้านข้างและด้านหน้าโบสถ์ ออกมากราบพระพุทธรูปให้เห็นอยู่เป็นประจำ ซึ่งทางด้านชาวบ้านที่มามาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานวิปัสสนา ได้เห็นเหมือนกันกับที่นายบุญชูได้เห็น
ด้านนายชุติเทพ สุดเสียงสังข์ อายุ 45 ปี ชาวบุรีรัมย์ ที่เดินทางมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานวิปัสสนาในยามค่ำคืน เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้พบเห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยสีแดง และแต่งชุดไทยสีเขียว เดินออกมาจากโบสถ์แล้วไปกราบพระพุทธรูป ซึ่งเห็นเหมือนกับ นาย บุญชู เมื่อเล่าถึงรูปร่างหน้าตาของทั้งสองคนเล่าได้ตรงกัน และยังพบเห็นหญิงที่แต่งชุดไทยเป็นนางรำมีอยู่ จำนนกว่า 10 คน ที่ยังคงวนเวียนอยู่ภายในโบสถ์ ซึ่งในการเดินทางมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานวิปัสสนาในยามค่ำคืนนี้ เพื่อช่วยกันปลดปล่อยวิญญาณไปสู่ภพภูมที่สร้างบุญกันมา และจะเดินทางกลับในตอนเช้า ซึ่งบริเวณโบสถ์ร้างวัดหนองเต่านั้นมีวิญญาณเร่ร่อนอีกจำนวนมาก
โดยโบสถ์ร้างแห่งนี้ คาดว่าอายุน่าจะมากกว่า 100 ปี มีขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร ก่อด้วยอิฐและหลังคาทรุดโทรมเสียหาย ซึ่งมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ตรงกลางเป็นร่มเงาอยู่กลางโบสถ์คอยพยุงไว้ไม่ให้พังทลาย ส่วนที่บริเวณด้านหน้าตรงทางเข้ามีรูปปั้นเต่าขนาดใหญ่ ที่ด้านข้างมีพระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่ประดิษฐานอยู่เป็นที่สักการบูชา ส่วนโดยรอบมีพื้นที่ป่าและสวนที่ชาวบ้านได้เช่าพื้นที่วัดปลูกต้นไม้เอาไว้ โดยในสมัยก่อนบริเวณดังกล่าวจะมีเต่าชุกชุม ซึ่งวัดหนองเต่ามีเนื้อที่ 3 ไร่ 14 ตารางวา โดยทางครอบครัวของ นาย บุญชู ได้เช่าที่วัดหนองเต่าทำสวนปลูกผลไม้และได้ปลูกบ้านอยู่ห่างจากโบสถ์ร้างประมาณ 100 เมตร มานานตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งจะได้พบเรื่องราวอาถรรพ์ลี้ลับที่โบสถ์ร้าง โดยจะได้ยินเสียงดนตรีปี่พาทย์บรรเลงยามค่ำคืนเป็นประจำ พ่อและแม่สั่งไว้ไม่ให้หันไปดูที่โบสถ์ร้างเมื่อได้ยินเสียงดนตรีปี่พาทย์ แต่ตนเองได้หันไปมองพบเห็นหญิงสาวแต่งกายชุดไทย จำนวน 5 – 6 คน ออกมาร่ายรำก่อนเดินเข้าไปภายในโบสถ์ร้าง และได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงปี่พาทย์บรรเลงอย่างไพเราะยามเป็นประจำในยามค่ำคืน แล้วมีหญิงสาวแต่งชุดไทยสวยงามออกมาร่ายรำให้เห็นอยู่เป็นประจำ ซึ่งมีชาวบ้านนักเสี่ยงโชคได้เดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภนำไปเสี่ยงดวงกันอย่างต่อเนื่อง