กรณี นายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง หรือ “หนังน้องเดียว” นายหนังตะลุงชื่อดังภาคใต้ แจ้งความกับตำรวจ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ว่า นางสุนิสา สุวรรณแว่นทอง ซึ่งเป็นภรรยา ขโมยรถไป 2 คัน รวมถึงสมุดคิวงานด้วย หลังภรรยาจับได้ว่าตัวเองแอบมีหญิงอื่น จนเกิดมีปากเสียงกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ

 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 62  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายบัญญัติ สุวรรณแวนทอง อายุ 31 ปี นายหนังตะลุงตาบอดที่มีชื่อเสียงโด่งดังของภาคใต้ เจ้าของคณะหนังตะลุง “น้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม ” พร้อมด้วยญาติ ๆ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่โรงแรมแกรนด์เซาท์เทิร์น อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า เมื่อก่อนอยู่กินกับ นางสุนิสา ภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กระทั่งมีลูกดัวยกัน 2 คน เป็นหญิง 1 ชาย 1 แต่มาระยะหลังมีปัญหาภายในครอบครัว ภรรยา สงสัยว่าตนมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับหญิงอื่น จากนั้นภรรยารบร้าวให้จดทะเบียนสมรส หลังจดทะเบียนสมรสวันที่ 6 ก.พ.62 ภรรยา ขอเข้าควบคุมดูแลเรื่องเงินที่ได้จากการแสดงหนัง และเป็นผู้ดำเนินงานเกี่ยวกับการรับงานแสดงเพียงผู้เดียว ส่วนเงินที่ได้จากการแสดงตนไม่รับทราบเลยว่ามีจำนวนเท่าไร

“ กระทั่งภรรยาขอเปิดบัญชีธนาคารจำนวน 12 บัญชี แต่ปัจจุบันภรรยาปิดบัญชีไปแล้ว 9 บัญชี แต่เมื่อตนตรวจสอบบัญชีพบว่าเงินในบัญชีหายไป จึงสอบถามภรรยา แต่ภรรยา ไม่สามารถตอบได้ว่าเงินหายไปไหน ตนจึงคุยกับภรรยาให้เปิดบัญชีใหม่และให้เปิดเป็นบัญชีของตนแต่เพียงผู้เดียว ภรรยาจึงเชิญพนักงานธนาคารมาที่บ้าน แล้วตนเปิดบัญชีธนาคารใหม่เป็นชื่อของตน โดยพิมพ์ลายนิ้วมือเปิดบัญชี เมื่อเวลาผ่านไปตนตรวจสอบพบว่าไม่มีบัญชีที่ตนเปิด

https://youtu.be/8xwDLTiKsUs

หนังน้องเดียว กล่าวอีกว่า กระทั่งวันเกิดเหตุตนและภรรยามีปากเสียงทะเลาะกัน ที่บ้านพักเลขที่ 327/22 ถ.ประชาอุทิศ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นภรรยาและญาติจึงขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยารีส สีดำ ทะเบียน กล 8007 นครศรีธรรมราช และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน กว 3262 นครศรีธรรมราช ออกจากบ้าน โดยมีสมุดคิวงานที่รับไปแสดงติดไปในรถยนต์ดัวย ตนจึงแจ้งความตำรวจให้ช่วยสกัดรถยนต์ทั้ง 2 คัน และขอสมุดคิวงานที่รับไว้คืน เพราะกลัวว่าจะถูกฟ้องร้องที่รับงานไว้แล้วไม่ไปแสดงให้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามหนังน้องเดียวว่า ภรรยาเคยบอกว่าไม่เลิก แต่หนังน้องเดียวบอกว่าเลิกหมายความว่าอย่างไร นายหนังน้องเดียว ตอบว่า ทางกฎหมายเราไม่ได้เลิกกัน เพราะยังไม่ได้หย่า แต่ทางหัวใจ ยังโทรฯ หาปกติ โทรฯ หาลูก ยังกลับบ้านได้ แต่ต่อไปนี้เขาจะไปมีใครคนอื่นหรือไม่ ตนก็ไม่ว่าอะไรแล้ว แต่ถ้าจะให้ตนกลับไปอยู่บ้าน ก็คงไม่ขอกลับไป เพราะคือเงินทองไม่ได้เกี่ยวกับตัวเลขจะมากหรือไม่ แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์ ตนก็เคือง หากเป็นคนนอกก็ไม่เป็นอะไร แต่นี่คนที่เรานอนกอดทุกคืน ไว้ใจที่สุด ตนมีหลักฐานไม่ได้ปรักปรำ หรือใส่ร้าย จริงๆ แล้วไม่อยากให้ข่าวออกไป เพราะเกรงว่าเขาจะลำบาก

“ ส่วนเรื่องนักข่าวถามตนเรื่องมีกิ๊กหรือไม่นั้น ตนตอบว่าไม่มีกิ๊ก แต่คนที่คบอยู่คือภรรยาเหมือนกัน ตนได้ใครแล้วก็รักและคือเมีย ตนยอมรับว่ามีเมียอีกคน เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ตนมีปัญหากับภรรยาและก็คิดว่าจะไม่กลับมาคืนดีแล้ว จึงต้องหาคนใหม่เพื่อให้มาดูแลเพราะตนตาบอดกินข้าวเปลี่ยนเสื้อผ้าทำเองไม่ได้ต้องมีคนดูแล แต่ภรรยาก็ไม่รู้ว่าตนมีคนใหม่ ตรงนี้ตนก็ผิดที่กลับมาหาภรรยาโดยไม่ได้บอกว่ามีคนใหม่ แต่หลังจากนี้ตนจะมีใครก็เป็นเรื่องของตน จะไม่กลับไปหาภรรยาแล้ว เพราะไม่มีความเชื่อใจในเรื่องเงินทอง”