สลด!! พ่อเฒ่าวัย 78 ปี อาศัยช่วง ลูกชาย-ลูกสะใภ้ ออกไปค้าขาย ผูกคอดับ
12 ธ.ค. 2562, 20:01
วันนี้ (12 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.เสถียร วงศ์หาจักร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ผูกคอตาย หลังบ้านเช่า เลขที่ 310/2 หมู่ 11 ต.สามพร้าว จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียว 4 คูหา พบศพ นายปิ่น อัดไม่ออก อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 บ้านซำรู้ ต.ห้วยเฮี้ย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอกับขื่อหลังคาหลังบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีแดง คลุมด้วยแจ็คเก็ตสีดำ สวมกางเกงขายาวสีกรมท่า มีรองเท้าฟองน้ำสีเขียว และเก้าอี้สีแดงวางอยู่ข้างศพ จากการชันสูตร ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตเพราะขาดอากาศ
ตร.สอบสวน นายสมพร อัดไม่ออก อายุ 55 ปี บุตรชาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ ตร.ว่า ตนและภรรยามาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ประมาณ 20 ปีแล้ว มีอาชีพทำขนมปังขายที่ตลาด แต่เมื่อ 5 ปีก่อน หลังจากแม่เสียชีวิต พ่อได้เงินฌาปนกิจ 2 แสนบาท พ่อยังแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่นานพ่อก็ได้ภรรยาใหม่อายุประมาณ 40 ปี อยู่ด้วยกันมาแค่ได้ประมาณ 3 เดือน ปรากฏว่าพอเงินหมดภรรยาใหม่ก็แยกทางกัน ตนจึงรับพ่อมาอยู่ด้วย ระยะแรกพ่อจะบ่นคิดถึงบ้านและภรรยาใหม่ ตนก็แค่ปลอบใจหลังจากนั้นพ่อก็ไม่เคยพูดอะไร หรือระบายอะไรให้ฟังอีกเลย เคยบอกพ่อว่าถ้าพ่ออยากกลับบ้าน ที่พิษณุโลกตนก็จะพากลับไปเยี่ยมบ้าน แต่พ่อไม่พูด
ก่อนเกิดเหตุวันนี้ ตนและภรรยาตื่นเช้าออกไปขายขนมตามปกติ ส่วนพ่อจะเฝ้าบ้านคนเดียว ตกบ่ายตนและภรรยากลับมา ไม่เห็นพ่อ นึกว่าออกไปเดินเล่นกับนายช่างอู่ซ่อมรถหน้าบ้านเพราะปกติพ่อเคยไปมาหาสู่กันบ่อย จึงไม่ได้ไปตาม ส่วนภรรยานั่งตอกไข่เตรียมทำขนมไปขาย เสร็จแล้วภรรยาจะออกไปอาบน้ำหลังบ้าน แต่ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่า พ่อผูกคอกับขื่อหลังคา บริเวณห้องเช่าเลขที่ 310 ซึ่งเป็นห้องว่างไม่มีผู้อยู่อาศัยเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งญาติที่พิษณุโลกทันที และจะนำร่างพ่อกลับบ้านไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ขณะที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายถูกปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว ส่วนลูกชายและลูกสะใภ้ออกไปค้าขาย ทำให้ไม่มีเพื่อนคุยคลายเหงา ทำให้ป่วยซึมเศร้าและผูกคอตาย หรืออาจจะคิดถึงภรรยาเก่าอายุ 40 ปี รุ่นลูกมาก แต่เขาจากไปแล้วและเกิดน้อยใจที่ภรรยาทิ้งไปจึงลาโลกดังกล่าว หลัง ตร.ตรวจและชันสูตรศพ จึงได้มอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป