เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ “แพทองธาร” เปิดโครงการพลังสตรีฯ กำลังสำคัญพัฒนาประเทศขอผู้หญิงภูมิใจในตัวเอง ยืนยันสานต่อกองทุนสตรีพร้อมยกระดับให้แข็งแกร่ง


12 มิ.ย. 2568, 19:37



นายกฯ “แพทองธาร” เปิดโครงการพลังสตรีฯ กำลังสำคัญพัฒนาประเทศขอผู้หญิงภูมิใจในตัวเอง ยืนยันสานต่อกองทุนสตรีพร้อมยกระดับให้แข็งแกร่ง




วันนี้ (12 มิถุนายน 2568) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชั้น 1 อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต”  โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะทูตานุทูต คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคีเครือข่าย สมาชิกกลุ่มอาชีพกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจากทั่วประเทศกว่า 2,000 คนเข้าร่วม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” โดยมั่นใจว่า “ผู้หญิงไทยมีศักยภาพมหาศาล ถ้าได้รับโอกาส” ซึ่งตนเองรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้อยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยพลังของผู้หญิงทั้งผู้นำในชุมชน ผู้นำท้องถิ่น คนรุ่นใหม่ที่มารวมตัวกัน และตนเองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งแม่ของลูก ลูกสาว และน้องสาว เข้าใจดีว่า การได้รับการยอมรับในโลกนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความพยายาม และความอดทน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ต้องการให้ผู้หญิงทุกคนภูมิใจในตนเอง

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อ 13 ปีก่อนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ก่อตั้ง “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” เพื่อให้ผู้หญิงมีที่พึ่ง มีโอกาส มีทุนในการลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง หรือต้องการต่อยอดชีวิต ดังนั้น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนี้ จึงไม่ใช่ของภาครัฐ แต่เป็นของผู้หญิงไทยทั้งประเทศ และตลอด 13 ปีที่ผ่านมา กองทุนนี้เปลี่ยนชีวิตของผู้หญิงจำนวนมาก จากคนที่ไม่กล้าแม้แต่จะฝัน กลายเป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นผู้นำชุมชน แม้ช่วงการเมืองเปลี่ยน มีความพยายามจะยุติกองทุนนี้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเครือข่ายผู้หญิงทั่วประเทศ เป็นพลังรักษากองทุนนี้ไว้ ดังนั้น ตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะสานต่อนโยบายนี้ โดยจะยกระดับกองทุนให้แข็งแรงขึ้น ทั้งงบประมาณ โครงสร้าง วิธีคิด และระบบสนับสนุน

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้รูปแบบการสมัคร ยื่นกู้ และติดตามผลกองทุนนี้ให้เข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อให้ทุกขั้นตอนง่าย โปร่งใส และปลอดภัย และจะเดินหน้าลงทุน “ฝึกทักษะแห่งอนาคต” ให้กับผู้หญิงไทย ทั้งการตลาดออนไลน์ การบริหารจัดการธุรกิจยุคใหม่ การจัดการแบรนด์ หรือการสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน และโดยเฉพาะการใช้ AI  ที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหญิง เรียนรู้เครื่องมือที่ช่วยลดภาระ แต่เพิ่มผลลัพธ์ ทำให้ผู้หญิงไม่ได้แค่เข้าถึงโอกาส แต่ได้เป็น “เจ้าของโอกาส” พร้อมทั้งจะเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงรุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อสานต่อกองทุนให้มีคณะกรรมการรุ่นใหม่ เพราะเมื่อผู้หญิงจับมือกันได้มากพอ ก็จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และปกป้องสังคมจากภัยต่าง ๆ เพราะเมื่อเครือข่ายผู้หญิงแข็งแรง จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดของชุมชน

“ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันให้กองทุนนี้เติบโต ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่กลไกของรัฐ แต่เป็นพลังของประชาชน ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง พร้อมทั้งยังขอเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคน ที่ไม่ยอมให้อุปสรรคมาหยุดความฝัน และยังเดินหน้าด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง และย้ำว่า รัฐบาลจะขยายความฝัน และความหวังในชีวิตของผู้หญิงทุกคนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เติบโต งอกงาม และไปได้ไกล ไม่ว่าจะอยู่ในเมือง บนดอย หรือชายแดน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า โครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” เป็นเวทีในการนำเสนอนโยบาย แนวทาง การพัฒนา และเป้าหมายในการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว และเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทบาท และเป้าหมายของกองทุนฯ ให้เป็น ที่รับรู้ โดยหวังให้เกิดการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสตรีในชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งสอดคล้องนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่ม เข้าถึงสวัสดิการรัฐ และพัฒนาศักยภาพตนเองเต็มที่ รวมทั้งยังสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่เน้นความเท่าเทียม ทั่วถึง และการเสริมสร้างศักยภาพของสตรีในทุกมิติ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ การลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่เปราะบาง โดยมี “พลังของสตรี” เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่มั่นคง และยั่งยืนของประเทศ 

ด้าน นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ยืนยันว่า ในอนาคตกองทุนนี้จะยังต้องคงอยู่ เพื่อเป็นโอกาส เป็นหลักพึ่งพิงให้แก่ผู้หญิงที่กำลังลำบาก ทั้งผู้หญิงในวันนี้ และ ผู้หญิงรุ่นต่อ ๆ ไป เพราะผู้หญิงไทยมีศักยภาพมากในตัวเอง ซึ่งในปีนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้รับการจัดสรรเงินทุนหมุนเวียนจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะกระจายไปยังแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ถึงมือผู้หญิงอย่างทั่วถึง เพื่อให้ทุนก้อนนี้ เป็นพลังสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ หรือต่อยอดกิจการเดิม หรือช่วยให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น

นางสาวธีรรัตน์ ยังระบุว่า กองทุนฯ ยังกำลังสร้างพื้นที่ใหม่ ให้กับผู้หญิงรุ่นใหม่ด้วยการส่งไม้ต่อ ผ่านโครงการ Empower Young Women ซึ่งเป็นการประกวดโมเดลธุรกิจในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาเข้าถึงโครงการในรูปแบบนี้ และโมเดลธุรกิจเหล่านี้ จะกลายเป็นลิขสิทธิ์ของกองทุนฯ เพื่อให้สมาชิกกองทุนฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ นำไปต่อยอดได้ทันที รวมถึงกองทุนฯ กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งในปีนี้สมาชิกสามารถสมัครเข้าร่วมกองทุนผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้ และในอนาคตกำลังจะพัฒนาให้สามารถยื่นกู้ ยื่นเอกสาร ตรวจสอบสถานะ และติดตามผลได้ครบวงจรในแอปเดียว ไม่ต้องเดินทาง และไม่ต้องส่งเอกสารซ้ำซ้อน เพื่อให้ผู้หญิงไทยเข้าถึงโอกาสได้เร็ว และง่ายขึ้น จึงยืนยันว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กำลังเดินหน้าไปสู่อนาคตที่แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.