ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สกุล เอี่ยมบุญลือ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุชายสูงอายุถูกมีดแทงเสียชีวิต ที่หมู่ 7 บ้านพุประดู่  จ.กาญจนบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สนง.ใหญ่ จุดทุ่งสะพานหิน จุดกรมทาง 01 ร่วมตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณรั้วไม้รวก ห่างจากบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 7 บ้านพุประดู่ ตำบลหนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประมาณ 10 เมตร พบศพ นายแน้ม อายุ 68 ปี ถูกแทงด้วยมีดเข้าที่รักแร้ซ้าย เสียชีวิตสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีฟ้าขาว นุ่งกางเกงสีดำขายาว ซึ่งมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้พยายามทำการปั้มหัวใจประมาณ 20 นาทีไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบพื้นที่ใกล้กันที่ก้อนหินพบมีดทำครัวด้ามสีดำปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม.ตกอยู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน รอมอบตัวในที่เกิดเหตุทราบชื่อคือ นางสาวพัชรินทร์  อายุ 61 ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของผู้ตาย อยู่ในสภาพอิดโรย อ่อนเพลีย หายใจติดขัด จึงให้มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ปฐมพยาบาลให้ออกซิเจน และควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ในสภาพทุลักทุเลทั้งถังออกซิเจน ส่วนผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา 

นอดีตภรรยา เล่าว่า ตอนนั้นป้าก็ไม่รู้หรอกว่ามีอะไรในห้อง ป้าก็กำลังเดินไปทำกับข้าว สงสัยว่าพวกนั้นมันเข้าไปทำอะไรกันในห้อง 3 คนเลยมองทางหน้าต่าง เห็นพวกนั้นกำลังเสพยากัน แล้วมันมีลุงเสพยาเสร็จเปิดประตูออกมา ป้าก็เลยกระชากประตูแล้วลุงมันก็มาผลักป้าล้มหัวกระแทกพื้นแล้วมันก็ตีป้า ป้าก็โมโหเลยไปเอามีดที่ครัว แล้วเดินตามเอามีดไปแทงลุงมันเลยเพราะโมโหที่โดนผลักล้มจนหัวโน ก่อนจะแทงมันพูดด้วยว่าแม่อย่าเยอะ  รู้สึกผิดมันผิดอยู่แล้วสงสารมันอยู่หรอก แต่บอกตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่ที่ให้เข้ามาเช่าบ้าน อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ตัวมันเองไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวพวกนั้นหรอก แต่ไปยังไงไม่รู้ไปเล่นของเล่นยา เราก็บอกแล้วมาเข้ามาเช่าอยู่ เหล้าเบียร์ได้แต่ห้ามเข้ามาเล่นยาไม่ชอบ ห้องแถวนั้นเล่นยาทั้งแถว เราเห็นเหตุการณ์คนเล่นยามาแล้วทั้งพ่อแม่มันยังตีกัน แล้วเมียมันจะเหลือหลอ แล้วของมันขายหมดงานก็ทำไม่สำเร็จ เขาก็มาฟ้องป้าแมว ไปติเงินร้านค้าก็มาทวงป้า อยู่ด้วยกันมา 20 ปี ไม่มีลูกแค่นั้นเอง ป้าป่วยเป็นความดัน ไขมัน เบาหวาน หอบหืด  มะเร็งปวด ตอนนี้นะ เพิ่งทำคีโมสามครั้ง มันไม่มีอะไรเลยตอนเมียทิ้งมัน มันมามีแต่ตัวก็เลยเลี้ยงมันไว้ ตอนแรกก็ดี ทำมาหากินดี ขยัน เพิ่งจะมีเสียหลังๆ นี้ล่ะ ตอนที่มันรู้ว่าป้าเป็นมะเร็งมันก็เริ่มเบะเทะ ควบคุมไม่อยู่ ป้าไม่มีแรงไปคุมมันแล้วตอนนี้ แทงไปทีเดียว คว้าอะไรมาก็แทงไป เอาจอบมาตีกูๆ ไม่ยอม ไม่คิดว่าจะตาย เพราะเห็นมันหลบเป็นนิ ทำไงก็ทำศพดิ จะให้ป้าทำอะไรจะให้ป้าไปขอโทษมันเหรอ 

จากนั้น ป้าพัชรินทร์ ได้เปิดให้ดูร่องรอยที่ลุงแม้น ผลักจนล้มหัวฟาดจนหัวโนบวม และที่หน้าผากโนบวม มีแผลถลอกที่หัวเข่าซ้าย พร้อมหยิบยารักษาโรคที่ตัวเองป่วยอยู่ หลายโรคทั้งความดัน เป็นมะเร็งระยะแรก ยาแก้ความเครียด 

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป้าพัชรินทร์ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือด้วยเหตุใช้อาวุธมีดแพงมายแมพจริงสาเหตุด้วยเพราะ โกรธและถูกทำร้ายก่อน จึงได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในระหว่าง ที่สอบปากคำอยู่นั้นป้าพัชรินทร์ก็มีอาการหายใจไม่ออกจุกแน่นหน้าอก พยายามสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงให้มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำตัวป้าพัชรินทร์ รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพหลพลมหาเสนา พร้อมอายัดตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป