วันนี้ 16 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายธนดล  สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูป พร้อมด้วยนายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์ หรือเต้ คณะทำงานฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเข้าตรวจสอบสนามกอล์ฟ อาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ท้องที่ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าสนามกอล์ฟดังกล่าวนั้นถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่เดิน

 

ก่อนเดินทางลงพื้นที่คณะทั้งหมดได้ประชุมเพื่อตรวจสอบขอบเขตแผนที่การครอบครองที่ดินของสนามกอล์ฟที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายวินัย เมฆดำ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี นายจรินทร์ บุตรวงษ์ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมประชุมโดยใช้เวลาประมาณ 50 นาทีจึงแล้วเสร็จ

 

จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่สนามกอล์ฟ อาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท เพื่อเข้าพบคณะผู้บริหาร โดยมีนายประสงค์ พงษ์ศักดิ์ ผู้จัดการสนามกอล์ฟ พร้อมด้วยผู้บริหารที่เป็นชาวไทยและชาวเกาหลี มาให้การต้อนรับและได้เชิญคณะทั้งหมดเข้าไปในห้องประชุม ซึ่งขณะผู้บริหารได้นำเอกสารหลักฐานมีทั้ง นส.3 ก.รวมทั้งโฉนด มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าสนามกอล์ฟซื้อมาจากกรมบังคับคดี โดยที่ไม่มีใครทราบมาก่อนว่าพื้นที่ของสนามกอล์ฟบางส่วนนั้นเป็นที่ดินของ สปก.เพราะซื้อมาจากกรมบังคับคดี

 

และจากการนำภาพถ่ายทางอากาศมาเปรียบเทียบกับเอกสารการครอบครองที่ดินปรากฏว่ามีที่ดิน สปก.อยู่ประมาณ 200 ไร่ ซึ่งทางผู้บริหารก็ยอมรับและไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตามทางคณะผู้บริหารสนามกอล์ฟดังกล่าวได้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากนั้นนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานฯ จึงขอให้คณะผู้บริหารนำพาไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่เป็นที่ดินในเขตปฏิรูป ด้วยการให้คณะนั่งรถกอล์ฟไปตรวจสอบ

 

จากการตรวจสอบพบพื้นที่อยู่ติดกับชายเขา บางจุดมีการก่องสร้างเป็นอาคารให้บริการแก่นักกอล์ฟที่เข้ามาใช้บริการ บางจุดเป็นสนามหญ้าที่เป็นแฟร์เวย์ของสนามกอล์ฟ หลังจากตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วเสร็จ คณะทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่มีการก่อสร้างโรงแรมที่พักที่อยู่ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ โดยพบว่าบริเวณริมแม่น้ำแควใหญ่นั้นมีการทำเป็นสนามหญ้าเพื่อความสวยงาม ในส่วนนี้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี โดยจะตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้นไม่พบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้าไปในลำน้ำแต่อย่างใด สำหรับบรรยากาศภายในสนามกอล์ฟ เป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากมีนักกอล์ฟทั้งชายและหญิงเข้ามาเล่นกอล์ฟกันเป็นจำนวน ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักกอล์ฟที่มาจากประเทศเกาหนีใต้เกือบทั้งหมด

 

ทั้งนี้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบที่ดิน สปก.พื้นที่สนามกอล์ฟในวันนี้สืบเนื่องจากเราได้รับการร้องเรียนมาจากพี่น้องประชาชนว่าขอให้เข้าตรวจสอบหน่อยว่าพื้นที่สนามกอล์ฟอยู่ในพื้นที่ สปก.หรือไม่ หรือมีเอกสารการครอบครองที่ดินมีเอกสารสิทธิ์อะไรบ้าง ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบในวันนี้เราใช้อำนาจของท่านปฏิรูปที่ดินจังหวัดตาม พรบ.ปฏิรูปที่ดิน ปี พ.ศ.2518 มาตรา 23 ซึ่งทางผู้จัดการสนามกอล์ฟได้ให้ความร่วมมือนำพาตรวจสอบเป็นอย่างดี

 

ซึ่งผมในฐานะหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูป ได้ร่วมกับคุณมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่เป็นคณะทำงานฯ จึงได้เข้ามาตรวจ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีทั้งโฉนดที่ดิน และ นส.3 ซึ่งที่ดินดังกล่าวนั้นทางสนามกอล์ฟ ได้ไปประมูลหรือซื้อมาจากกรมบังคับคดี

 

แต่ด้วยความที่มีประชาชนร้องเรียนมา พบว่าพื้นที่ที่เป็น สปก.ทางสนามกอล์ฟไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆนำมาแสดงกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี เบื้องต้นเมื่อไม่มีเอกสารนำมาแสดงเราต้องสันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่ามีการบุกรุกที่ดิน สปก.เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่ามีการสร้างอาคารและสนามกอล์ฟที่เป็นกรีนเวย์

 

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบการครอบครองที่ดิน สปก.ของสนามกอล์ฟไมด้า กอล์ฟคลับนั้น พบว่ามีพื้นที่ สปก.อยู่ในสนามกอล์ฟ ประมาณกว่า 300 ไร่ และที่ผ่านมา สปก.ได้เข้ามาตรวจยึดเมื่อปี พ.ศ.2562  เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เราจึงได้ทำหนังสือตาม พรบ.การปฏิบัติวิธีทางปกครอง ให้เจ้าของเข้ามาชี้แจงภายใน 30 วัน ในระยะเวลา 30 วัน เจ้าของได้ทำหนังสือมาเพื่อให้ สปก.กาญจนบุรีเข้าไปตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง เบื้องต้นทางสนามกอล์ฟได้ส่งมอบคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กับ สปก.กาญจนบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหากยังไม่ส่งมอบคืนก็จะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งการตรวจสอบเราต้องใช้วิธีจากเบาไปหาหนัก เราจะไม่ทำร้ายใครเพราะว่าทุกคนถ้ารู้ว่าเป็นพื้นที่ของรัฐคงไม่มีใครเข้ามาบุกรุก ซึ่งเราดูที่เจตนาเป็นสำคัญ

 

ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ หนึ่งในคณะทำงานฯ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ก็ต้องเข้าใจว่าประชาชนตอนนี้มันเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เรามีแค่ 600,000 คน แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 65 ล้านคน ทำให้ผู้คนมีความต้องการที่ดีทำกินมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้แต่ละจุดเกิดความขัดแย้งกันระหว่าง สปก.กับ กรมอุทยานฯ มันอยู่ที่การครอบครอง

 

ต้องเข้าใจว่าในปัจจุบันประชาชนมันเยอะขึ้นความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับในพื้นที่มันก็จะมีมากขึ้น เพราะว่าประชาชนต้องการพื้นที่ดังนั้นการที่ สปก.ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน เป็นการแก้ไขปัญหาให้ส่วนหนึ่ง ส่วนกรมอุทยานก็ใช้ พรบ.กรมอุทยาน ปี 2562 มาตรา 64 ในการแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ซึ่งเขาเรียกว่าไม่ดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่ทำกินมาก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกา อุทยานแห่งชาติในแต่ละจุดด้วยกัน

แต่ปัจจุบันที่มันเกิดข้อปัญหาความขัดแย้งคือมันเกิดการประกาศพระราชกฤษฎีกาอุทยานกับพระราชกฤษฎีกา พรบ.สปก.ทับเลนกัน เมื่อประกาศทับเลนกันมันจึงเกิดความขัดแย้งระหว่างคน 2 กลุ่ม แล้วก็กลุ่มที่เข้ามาอยู่ก่อน และกลุ่มที่เข้ามาอยู่ระหว่างทาง แล้วก็ขยายพื้นที่เพิ่มเติม

 

แต่ประเด็นสำคัญคือการมาตรวจสอบในวันนี้เจ้าของพื้นที่เขาเรียกนายทุน เพราะฉะนั้นการมาตรวจสอบในวันนี้มันก็ต้องดูว่าถ้ามันบุกรุกล้ำเข้าไปก็ต้องคืนที่ดินให้กับ สปก.และหากมีการแผ้วถางหรือเอาดินไปขายก็ต้องมีความผิดตามกฎหมาย แต่ประเด็นสำคัญกว่านั้นก็คือที่มาของที่ดินตรงจุดนี้อย่าลืมว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นที่พระราชกฤษฎีกา 2481 ซึ่งเป็นของทหาร และได้ส่งมอบให้กับ สปก.ในปี 2520 และพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีอุทยานฯเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อไม่มีก็จะเป็นพื้นที่ของ สปก.ทั้งหมด

 

โดยในวันนี้เราจะเดินทางไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบว่าเอกสารสิทธิ์ทั้งโฉนดและ นส.3 ทางทางสนามกอล์ฟนำมาแสดงนั้นออกมาได้อย่างไร เคสนี้กลัวว่าจะคล้ายกับที่ดินของการรถไฟที่เขากระโดง ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยใช้ สค.บิน จากนั้นนำมาออกเอกสารในภายหลัง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในขณะนั้นเป็นคนออกเอกสารให้

 

เพราะฉะนั้นที่ดินบริเวณนี้ก็เฉกเช่นเดียวกันแต่บังเอิญว่าสนามกอล์ฟแห่งนี้เขาไปซื้อที่ดินที่เป็นสนามกอล์ฟมาจากกรมบังคับคดีมาหลายทอด ดังนั้นเจ้าของจึงครอบครองที่ดินในส่วนที่เขาครอบครองถือว่าถูกต้องโดยชอบด้วยกฎหมาย  แต่ในส่วนที่เกินออกมาก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามในส่วนที่เป็นเอกสารสิทธิ์จะต้องไปตรวจสอบกับกรมที่ดิน และถ้าดูอย่างละเอียดแล้วพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์มาโดยมิชอบ ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายและเพิกถอนโฉนดในอนาคต แต่ตัวเจ้าของสนามกอล์ฟแห่งนี้คงไม่รู้เรื่อง ซึ่งจะต้องตรวจสอบย้อนหลังไปในสมัยก่อน ว่าผู้ว่าหรือนายอำเภอท่านใดทำผิดกฎหมาย แต่ส่วนใหญ่ถ้าจับได้ก็คงชิงฆ่าตัวตายก่อนเหมือนที่จังหวัดภูเก็ต