จนท.ขสป.ลุ่มน้ำปาย รวบหนุ่มบุกรุกป่า 11 ไร่ พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป
16 มิ.ย. 2567, 16:17
วานนี้ (15 มิ.ย.67) นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย (หน.ขสป.)ลุ่มน้ำปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตามคำสั่งการของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เข้มงวดกวดขัน การบุกรุกทำลายป่าและการล่าสัตว์ป่า นั้น
นายนิกร แก้วโมรา หน.ขสป.ลุ่มน้ำปาย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจป้องกัน และปราบปราม ที่ 2 อำเภอปางมะผ้า หน่วยพิทักษ์ป่าปางมะผ้า ออกตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่า บริเวณบ่อขยะบ้านแม่หมูลีซอ ครั้นเวลา 14.30 น.ของวันที่ 14 มิถุนายน 2567 คณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พบชาย 1 คน กำลังปลูกข้าว ทราบชื่อภายหลังว่านายคำเหลื่อน ไม่มีชื่อสกุล อายุ 42 ปี (เป็นบุลคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย) ที่อยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน คณะเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการแสดงตัวและสอบถามนายคำเหลื่อน ว่าพื้นที่บุกรุกแผ้วถางนี้เป็นของใครและผู้ใดเป็นผู้ยึดถือครอบครอง นายคำเหลื่อน ได้ให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นผู้บุกรุกแผ้วถางครอบครองพื้นที่นี้ เพื่อทำการเกษตร จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและทำการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุ พบเป็นพื้นที่บุกรุกแผ้วถาง จำนวน 1 จุด มีการเก็บริบกิ่งไม้และวัชพืชรวมกันเป็นกองบริเวณโคนต้นไม้และในพื้นที่ เพื่อรอทำการเผาและมีร่องรอยต้นไม้ถูกกานโคนต้นให้ยืนต้นตาย
พบอุปกรณ์การกระทำผิด จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 1.จอบ จำนวน 1 ด้าม 2.มีดขอ จำนวน 1 เล่ม 3. เสียมสำหรับปลูกข้าว จำนวน 1 อัน พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถาง จำนวน 11 ไร่ 0 งาน 52 ตารางวา คณะเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ นายคำเหลื่อน ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็น การกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54,72 ตรี ฐาน “ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”ตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53,96 “ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” มาตรา 55(2),99 ฐาน “ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิม” “ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”คณะเจ้าหน้าที่ฯ ได้จัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุม ส่งตัวผู้กระทำผิด พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป