วันศุกร์ที่ 7มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. ณ ตลาดเกษตรกร สี่แยกดงมะขามเทศ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งเสริมการจำหน่ายและการบริโภคสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยจังหวัดสิงห์บุรี  โดยมีนางอมราพร ชีพสมุทร์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน มีนายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสิงห์บุรี คุณแม่ภรณี ธนาคมานุสรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรในจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมในกิจกรรม

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสิงห์บุรีได้กำหนดดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย และสินค้า Q ของจังหวัดสิงห์บุรี โดยจัดงานส่งเสริมการจำหน่ายและการบริโภคสินค้าเกษตร และอาหารปลอดภัยจังหวัดสิงห์บุรี ระหว่างวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน  ถึงวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567 รวม 2 วัน ณ ตลาดเกษตรกร สี่แยกดงมะขามเทศ อำเภอเมืองสิงห์บุรี

ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยอาหาร ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าของดีของจังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 68 ร้าน มีการให้บริการตรวจค้นหาระดับสารพิษตกค้างในเลือดของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี การแสดงของชุมชนชาวตลาดสิงห์บุรี การแข่งขันตำส้มตำลีลา"สิงห์ ตำ แซ่บ" ของภาครัฐ และภาคประชาชน

ด้วยยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ประเด็นเกษตรปลอดภัย ให้ความสำคัญกับการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตร ทั้ง
พืช ปศุสัตว์ และประมง เพื่อนำมาซึ่งโอกาสในการสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกร ในระยะ 20 ปี ที่เน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตในภาคเกษตรไปสู่สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง โดยอาศัยการยกระดับการผลิตให้เข้าสู่คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยโดยจังหวัดสิงห์บุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 541,049ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม 357,202ไร่ คิดเป็นร้อยละ 69.45 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด 

ซึ่งเป้าหมายการพัฒนาของจังหวัดสิงห์บุรีมุ่งเน้นให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรมาตรฐาน อาหารปลอดภัย นอกเหนือจากการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคแล้ว การจัดหาตลาดจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพและการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค ได้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าคุณภาพ เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร ที่สำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มมูลค่าการจำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้ผลิตได้อีกทางหนึ่ง