กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB โดย กองบังคับการปราบปราม จับกุมนายเพชร ฐาน"ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน " 2. นาย โอ๊ต   ฐาน "ร่วมกันรับของโจร" 3. น.ส.แต้ว ฐาน “ร่วมกันรับของโจร”

ย้อนไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ญาติผู้ตาย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแจ้งความว่า น.ส.สุดารัตน์ ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ ได้หายตัวไปจากบ้าน ที่จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยรถยนต์ เกรงว่า น.ส.สุดารัตน์ อาจจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง 

ต่อมาเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ทำการสืบสวน โดยตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบประตูห้องนอนของ น.ส.สุดารัตน์ ถูกทุบทำลายได้รับความเสียหาย จึงเชื่อว่าการหายตัวไปของ น.ส.สุดารัตน์น่าจะเกิดจากการถูกประทุษร้ายต่อชีวิต และพบรถขับผ่าน ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ชายแดนด้านทิศตะวันตก

กระทั่งเดือน มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จ.นครศรีธรรมราช พบศพ นส. สุดารัตน์ บนภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม สภาพนอนตะแคงชันเข่า โดยมีผ้าห่มสีเขียวคลุมห่อไว้ และถูกยิงด้วยอาวุธปืนฝังในศีรษะ 1 นัด

จากการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียงมีบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมกัน 9 ราย โดย 1 ในคนร้ายคือ นายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นคนที่บุกเข้าเอาตัว น.ส.สุดารัตน์มาจากในบ้าน พร้อมด้วยนำรถยนต์ จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานมีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 9 ราย แบ่งกลุ่มได้ ดังนี้

กลุ่มผู้ลักพาตัว (อุ้มฆ่า)
1. นายธนวิชญ์ หรือเพชร (สงวนนามสกุล)
2. นายอนุสรณ์ หรือสร (สงวนนามสกุล) หลบหนี
3. นายบุญยืน หรือกบ (สงวนนามสกุล)
4. นายสุขพินันท์ หรือสุข (สงวนนามสกุล)

กลุ่มผู้นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน
5. นายชัยญา หรือบี (สงวนนามสกุล) หลบหนี
6. นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) หลบหนี
7. นายโอ้ต (สงวนนามสกุล)
8. น.ส.แต้ว (สงวนนามสกุล)
9. นายเอกลักษณ์ (สงวนนามสกุล)