เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 23 เม.ย.67 พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศักดิ์ดา จำปาทอง รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองประจวบฯ นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางไปควบคุมตัว นายสมบุญ พ่วงสำราญ อายุ 59 ปี หรือ ลุงสม อดีตสามีเก่าของนางนิตย์ รุ่งสว่าง อายุ 52 ปี หรือป้าเล็ก ผู้เสียชีวิต ซึ่งได้เลิกลากันไปนาน 27 ปี มาสอบสวนที่โรงพัก หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันหาตัวผู้ก่อเหตุตลอดทั้งวัน โดยได้มีการติดต่อประสานขอเข้ามอบตัวผ่านนายศรัณย์ กลั่นประเสริฐ กก.ตร.สภ.เมืองประจวบฯ ผู้เป็นนายจ้าง หลังก่อเหตุได้หนีความผิดไปกบดานอยู่ที่อำเภอสามร้อยยอด

 

 

นายศรัณย์ กลั่นประเสริฐ นายจ้างผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายสมบูรณ์ พ่วงสำราญ หรือลุงสม ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกจ้างของตนซึ่งว่าจ้างให้ดูแลบิดา ได้มีการติดต่อประสานมาหาตนเพื่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังได้ก่อเหตุนำศพไปหมกอำพรางในป่ากกร่องห้วยกลางไร่สับปะรด ในพื้นที่หมู่บ้านหนองแก หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะหลัก ห่างจากสำนักสงฆ์และจุดที่พบรถจักรยานยนต์ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ประมาณ 300 เมตร โดยนายสมยอมรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุในช่วงวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้โทรนัดแนะกับป้าเล็ก(ผู้ตาย) ซึ่งเป็นอดีตภรรยา ที่ได้เลิกลากันไปนานถึง 27 ปี ให้มาหาที่สำนักสงฆ์ ซึ่งป้าเล็กผู้เสียชีวิตได้ไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้ามา 1 กระป๋อง แล้วขับรถจักรยานยนต์มาหาตนที่สำนักสงฆ์ร้างที่ตนดูแลอาศัยเลี้ยงวัวอยู่

จากนั้นจึงได้มีการร่วมรักกันเมื่อเสร็จภารกิจจึงได้แยกทางกับป้าเล็กเพื่อกลับไปหาครอบครัวตามปกติ ส่วนป้าเล็กบอกว่าขอนอนพักต่ออีกสักครู่จึงจะกลับบ้านแล้วมาพบในช่วงเช้าของวันที่ 22 ว่าป้าเล็กนอนเสียชีวิตตัวแข่งทื่ออยู่ภายในสำนักสงฆ์แล้ว จึงเกิดกลัวความผิดจึงได้นำศพขึ้นรถกระบะแล้วนำไปทิ้งในร่องห้วยกลางไร่สับปะรดแล้วใช้ต้นกกปิดบังอำพรางเอาไว้ จากนั้นนำมอเตอร์ไซค์ไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำประปาหมู่บ้าน ห่างจากสำนักสงฆ์ประมาณ 100 เมตร ส่วนเสื้อสีแดงที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่ในวันเกิดเหตุ และโทรศัพท์มือถือได้เผาทำลายทิ้งภายในสำนักสงฆ์ร้าง