ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นางชัญญาพรรณ อายุ 56 ปี อาชีพทำงานอยู่ที่ศาลแห่งหนึ่ง ได้ใช้อาวุธปืนยิง นาย กฤษณ์ อายุ 63 ปี อาชีพทนายความ  ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 น.ของวันที่ 18 มี.ค. 2567  เมื่อยิงเสร็จและเห็นว่า นาย ก.เสียชีวิตแล้ว จึงได้เดินทางออกจากบ้านที่เกิดเหตุพร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด .38  มาพบกับ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ ที่ สภ.กันทรารมย์ เพื่อเข้ามอบตัว ซึ่งต่อมา  ผกก.สภ.กันทรารมย์ ได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เอกภูมิ พละศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรารมย์ แพทย์เวร รพ.กันทรารมย์ และเจ้าหน้าที่ ตร.จำนวนหนึ่ง  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้าน 2 ชั้น  ที่ห้องรับแขกชั้นล่างภายในบ้านพบศพนายกฤษณ์ โดนยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 3 นัดเข้าที่บริเวณหน้าอกและลำตัวเสียชีวิตคาที่ ใกล้กันพบมีดปลายแหลมวางอยู่ด้านซ้ายข้างศพของผู้เสียชีวิต  เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฏหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 19 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ ร.ต.อ.เอกภูมิ พละศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรารมย์ ได้นำตัว นางชัญญาพรรณ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยังนายกฤษณ์ อายุ 63 ปี อาชีพทนายความเสียชีวิตคาที่ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ทนายความของนางชัญญาพรรณ ได้มาพบกับนางชัญญาพรรณ ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามสาเหตุแรงจูงใจที่ก่อเหตุสังหารโหดในครั้งนี้ แต่ว่า นางชัญญาพรรณ ปฏิเสธที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปิดปากเงียบเดินเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวนพร้อมกับทนาย ความส่วนตัวที่มาช่วยในการว่าความครั้งนี้  ซึ่ง พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ ได้เข้าไปควบคุมดูแลการสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง

ร.ต.อ.เอกภูมิ พละศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรารมย์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นางชัญญาพรรณ ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายกฤษณ์ ทำให้เสียชีวิตจริง แต่ไม่ยอมเปิดเผยถึงสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ขอเปิดเผยสาเหตุ  หลังจากสอบปากคำเสร็จแล้ว ตนจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปส่งผัดฟ้องและฝากขังต่อศาล จ.ศรีสะเกษต่อไป

พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ห้องทำงาน ได้มี นางชัญญาพรรณ มาขอพบกับตน โดยถือกระเป๋ามาด้วย และได้แจ้งให้ตนทราบว่า เป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิง นายกฤษณ์ เสียชีวิต พร้อมทั้งได้นำเอาอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ออกจากกระเป๋ามามอบให้ตน พร้อมแจ้งว่า ยังมีกระสุนปืนในรังเพลิงอีก 2 นัด  ซึ่งตนก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีการนำเอาอาวุธปืนพร้อมกระสุนปืนที่ใช้ยิงคนตายมามอบให้  ตนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ ตร.สวมถุงมือตรวจสอบอาวุธปืน  ซึ่งตอนแรกตนไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ ตร.มาควบคุมดูแลนางชัญญาพรรณไว้  จากนั้น ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.เอกภูมิ พละศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน ไปทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเรื่องจริง โดยพบนายกฤษณ์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 3 นัด เข้าที่บริเวณหน้าอกเสียชีวิตภายในบ้านพัก

ผกก.สภ.กันทรารมย์ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบปากคำ  นางชัญญาพรรณ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกฤษณ์ และได้ขับรถเก๋งส่วนตัวมาหานายกฤษณ์ที่บ้านเกิดเหตุ  โดยนายกฤษณ์ได้กดรีโมทเปิดประตูรั้วบ้านให้นางชัญญาพรรณ ขับรถเข้าไปจอดภายในบ้าน จากนั้นปิดประตูรั้วหน้าบ้านไว้เช่นเดิม ซึ่งได้มีการพูดคุยกันด้วยเรื่องส่วนตัวและเกิดการทะเลาะกัน  นางชัญญาพรรณ จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงนายกฤษณ์อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวจำนวน 4 นัด โดยยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกของนายกฤษณ์ จำนวน 3 นัด ส่วนกระสุนปืนอีก  1 นัด เป็นลูกแบงค์หัวตัด ข้างตัวของนายกฤษณ์ที่ถูกยิงมีมีดปลายแหลมตกอยู่ หลังจากยิงนายกฤษณ์แล้ว นางชัญญาพรรณ ได้เดินถือกระเป๋าบรรจุอาวุธปืนปีนข้ามรั้วบ้านของนายกฤษณ์ออกมา โดยอ้างว่า ไม่มีรีโมทเปิดประตูและจอดรถไว้ในบ้านของนายกฤษณ์ เดินเท้าระยะทางประมาณ 2 กม.เศษเพื่อมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน โทษสูงสุดคือประหารชีวิต โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ ตั้งหลักทรัพย์การประกันตัวไว้ตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล จ.ศรีสะเกษ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 59/11 ด.ดูน 11 อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุพบว่า ประตูหน้าบ้านเปิดเอาไว้ มีรถจอดอยู่ในบ้าน 3 คัน  ภายในบ้านมีภรรยาและญาติพี่น้องของ  นายกฤษณ์ ผู้เสียชีวิต กำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการจัดเตรียมงานศพ โดยได้จัดเตรียมสถานที่ภายในบ้าน  นำเอาชุดรับแขกและสิ่งของต่าง ๆ ออกมาไว้หน้าบ้าน เพื่อเตรียมรอรับศพของนายกฤษณ์ มาตั้งศพประกอบพิธีทางศาสนา  โดยขณะนี้ศพของนายกฤษณ์ ยังคงอยู่ รพ.ศรีสะเกษ เนื่องจากแพทย์กำลังทำการชันสูตรศพตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งภรรยาและญาติของนายกฤษณ์ทุกคนปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น กล่าวเพียงสั้นๆว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ ตร.ดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และขอให้ผู้ก่อเหตุรับโทษสถานหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางชัญญาพรรณ  ผู้ต้องหารายนี้ อดีตเคยรับราชการตำรวจยศสิบตำรวจตรี จากนั้น ได้โอนไปเข้ารับราชการที่ศาลแห่งหนึ่ง ทำให้มีความรู้ในเรื่องการใช้อาวุธปืน จนกระทั่งมาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายกฤษณ์ทนายความชื่อดังเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วยเรื่องส่วนตัว