เตือนภัย ! "การสร้างบ้าน" ท่านอาจเป็นเหยื่อแบบสาวรายนี้ ถูกช่างรับเหมาแสบหลอกเงินสร้างเรือนหอแล้วเทงานทิ้ง
6 มี.ค. 2567, 05:09
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางสาวเสาวรส โพธิ์ทอง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดกับช่างรับเหมาก่อสร้าง บริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดังรายหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี หลังได้ตกลงเซ็นสัญญาว่าจ้าง บริษัทรับเหมรรายดังกล่าว ให้เข้ามาสร้างเรือนหอและรั้วล้อมรอบเรือนหอของตนเอง ในพื้นที่ตำบลดอนชะเอม อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้จ่ายเงินค่าเซ็นสัญญา จำนวนสองแสนบาท ละเงินค่าซื้อวัสดุทำรั้วในงวดแรกไปแล้ว จำนวนเจ็ดหมื่นบาท แต่ปรากฏว่า ช่างรับเหมารายดังกล่าว กลับเข้ามาทำงานเพียงไม่กี่วัน ทำเพียงขึ้นเสาเอกบ้าน จากนั้น ทิ้งงานหายไปนานนับสัปดาห์ ตนพยายามติดตามหาตัว แต่ก็ไม่พบ สุดท้าย บล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ เทงานทิ้งไปหน้าตาเฉย เชิดเงินสองแสนเจ็ดหมื่นบาทลอยนวล
ทำให้สุดท้าย ตนต้องหาช่างรายอื่นเข้ามารับงานแทน เพื่อก่อสร้างเรือนหอให้แล้วเสร็จตามกำหนดก่อนงานแต่งงานได้อย่างฉิวเฉียด โดยทุกวันนี้ แม้จะพยายามติดตามหาตัวช่างรับเหมารายดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนจะพบว่า มีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่ถูกช่างรับเหมารายดังกล่าวหลอกเซ็นสัญญา รับเงินแล้วทิ้งงานหนีไปเช่นกัน
ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย คือนางสาวรุ่งนภา คิ้วเจริญพร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพราะถูกช่างรับเหมาของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง รายเดียวกัน เข้ามารับเงินก่อสร้างรั้วกันดิน ในที่ดินเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยช่างรับเหมารายดังกล่าวเบิกเงินไปกว่าหนึ่งล้านสี่แสนบาท แต่ก็ทำงานไปเพียงนิดเดียวแล้วเทงานทิ้ง โดยนางสาวรุ่งนภา เล่าว่า ตนเองได้ไปขออนุญาติจากทางองค์การบริหารส่วนตำบลดอนชะเอม เพื่อทำการถมดินและก่อสร้างรั้วกันดิน ในที่ดินจำนวน 5 ไร่ ของตนเอง ในพื้นที่ตำบลดอนชะเอม อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งหลังจากทำเรื่องขออนุญาตเรียบร้อย นายช่างของทางองค์การบริหารส่วนตำบลดอนชะเอม ได้แนะนำช่างรับเหมารายดังกล่าวมาให้ ตนเองเห็นว่า หากเลือกช่างที่ทางอบต. แนะนำมาให้ น่าจะทำให้ขออนุญาตผ่านง่ายและคงมีความน่าเชื่อถือ จึงตกลงว่าจ้าง บริษัทรับเหมารายดังกล่าว พร้อมเซ็นสัญญาว่าจ้างและโอนเงินงวดแรกให้ จำนวนสี่แสนบาท จากนั้น ช่างรับเหมารายดังกล่าว ก็เริ่มเข้ามาทำงาน พร้อมถ่ายรูปงานและขอเบิกเงินจากตนไปทีละงวด จนถึงงวดที่สี่รวมมูลค่ากว่าหนึ่งล้านสี่แสนบาท แต่เมื่อตนเข้ามาดูงานในพื้นที่ กลับพบว่า ช่างรับเหมารายดังกล่าว ทำงานก่อสร้างไปเพียงส่วนเดียว คือส่วนที่ถ่ายรูปส่งให้ตนดู ซึ่งมีเนื้อที่เพียงไม่กี่สิบเมตร ส่วนพื้นที่ที่เหลือ ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย
ตนจึงสอบถามไปยังช่างรับเหมารายดังกล่าวและได้รับคำตอบว่าจะขอขยายระยะเวลาสัญญาและเร่งดำเนินการสร้างแนวรั้วกันดินให้แล้วเสร็จ สุดท้าย วันที่ 25 ธันวาคม 2566 ช่างรับเหมารายดังกล่าว ได้นำรถเข้ามาขนวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่ตนเป็นคนจ่ายเงินซื้อออกไปจากพื้นที่ก่อสร้าง โดยอ้างว่า จะนำงานไปทำที่บ้านและขาดการติดต่อ ทิ้งงานก่อสร้างไปจนถึงปัจจุบัน ทำให้ตนต้องเสียเงินไปกว่าหนึ่งล้านสี่แสนบาท โดยที่งานไม่แล้วเสร็จ
และตนเองพยายามสอบถามไปยังนายช่างขององค์การบริหารส่วนตำบลดอนชะเอา ที่เป็นคนแนะนำช่างรับเหมารายดังกล่าวมาให้ ก็ได้รับคำตอบเพียงว่า ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวดับช่างรายดังกล่าว ทำให้ตนเองรู้สึกเคว้งคว้าง และไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา เพื่อเอาผิดกับช่างรับเหมารายดังกล่าวและเพื่อไม่ให้ช่างรับเหมารายนี้ ไปหลอกลวงคนอื่นได้อีก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกช่างรับเหมารายดังกล่าวให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์แล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอให้ช่างรับเหมารายดังกล่าวมาเข้าพบพนักงานสอบสวน หากไม่มาพบก็จะได้ดำเนินการขอศาลออกหมายจับตามกฎหมายต่อไป