ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กรมการปกครอง นำโดย นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พร้อมด้วยฝ่ายความมั่นคง ตำรวจตระเวรชายแดนที่ 135  หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลประชากรของประเทศเพื่อนบ้านที่ลี้ภัยมาทางช่องทางธรรมชาติเข้ามาอาศัยอยู่กับญาติในหมู่บ้านปิล็อคคี่ หมู่บ้านที่ติดกับแนวตะเข็บชายแดน และตั้งอยู่ในเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีกว่า 40 ครัวเรือน

 

นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ตนและนายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอทองผาภูมิ นำกองกำลังฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ฯตรวจสอบข้อมูลประชากรประเทศเพื่อนบ้านที่ลี้ภัยมาตามช่องทางธรรมชาติเข้ามาอาศัยกับญาติพี่น้องในหมู่บ้านปิล็อคคี่ พบว่า มีประชากรของประเทศเพื่อนบ้านในแนวตะเข็บชายแดนมาอาศัยอยู่กับญาติในหมู่บ้านปิล็อคคี่จำนวนเกือบ 100 ราย กว่า 40 ครัวเรือน โดยมีสาเหตุในการข้ามแดน คือ ได้หนีภัยจากการสู้รบ และความไม่สงบของประเทศเพื่อนบ้าน จึงเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ที่มีแนวระยะของเขตแดนยาวกว่า 70 กิโลเมตร ทำให้ประชากรของสองประเทศ เดินทางข้ามแดนไปมาหาสู่กัน โดยในวันนี้นอกจากตรวจสอบข้อมูลประชากรที่ข้ามระหว่างประเทศแล้ว กรมการปกครอง โดยอำเภอทองผาภูมิยังได้มาสอบปากบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนแต่เป็นคนที่อยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เพื่อจัดทำบัตร สถานะทางทะเบียนให้ถูกต้อง โดยเริ่มต้นที่เด็กนักเรียนและผู้สูงอายุ ซึ่งครั้งนี้มีผู้สูงอายุที่ต้องสอบปากมากถึง 97 ราย โดยปัญหาที่พบในการสอบปาก คือ ต้องใช้ล่ามในการสื่อสาร เพราะส่วนใหญ่เป็นชนเผ่ากะเหรี่ยงทั้งหมด ทั้ง 3 หมู่บ้าน แบ่งเป็น ปิล็อคคี่ 45 ราย โบอ่อง 32 ราย บ้านใหม่ไร่ป้า 20 ราย