บุกจับ ! "หมอเถื่อน" ให้บริการเสริมความงามผิดกฎหมาย ยึดของกลาง 96 รายการ มูลค่ากว่า 5 แสนบาท
20 ก.พ. 2567, 09:21
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงผลระดมตรวจค้น 5 จุด จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย โดยเป็นแพทย์เถื่อน 4 ราย, แพทย์จริง 1 ราย และเจ้าของสถานที่ 1 ราย ตรวจยึดของกลาง จำนวน 96 รายการ มูลค่ากว่า 500,000 บาท สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ให้ทำการตรวจสอบบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์เปิดร้านเสริมสวย และบ้านพัก ลักลอบให้การบริการฉีดหน้าเสริมความงามให้ประชาชน อาทิเช่น ฉีดโบท๊อก ฟิลเลอร์ ฉีดวิตามินบำรุงผิว ฯลฯ อีกทั้งมีการโฆษณาเชิญชวนประชาชนให้มารับการรักษา แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างโจ่งแจ้งโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี และ จ.ระยอง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ทำการสืบสวนพบว่า มีบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์หลายรายทำการใช้สถานที่ต่างๆ เปิดรับการรักษาให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้บริการ เช่น ใบหน้าผิดรูป หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อจนเป็นอันตรายถึงชีวิต จนนำมาสู่การระดมกวาดล้างหมอเถื่อน และสถานพยาบาลเถื่อนในครั้งนี้ รวม 5 จุด ตรวจยึดของกลาง จำนวน 96 รายการ มูลค่ากว่า 500,000 บาท โดยเป็นยามีทะเบียนตำรับยา จำนวน 36 รายการ, ยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา 20 รายการ, เครื่องมือแพทย์ จำนวน 19 รายการ เครื่องสำอาง จำนวน 4 รายการ เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ จำนวน 17 รายการ
ทั้งนี้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ทำการรักษา และเจ้าของสถานที่ ทั้งหมด 6 ราย โดยผู้ทำการรักษาจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 ราย ปริญญาตรี 2 ราย และเรียนจบแพทย์จริงแต่รักษาในสถานที่ไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้บุคคลที่มิใช่แพทย์มาให้บริการรักษา ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตได้ โดยหากพบการกระทำความผิดพนักงานสอบสวนจะมีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป