วันนี้ ( 5 ก.พ.67 ) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการยื่นเสนอยุบพรรคก้าวไกลหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยและมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกล “ยิ่งยุบยิ่งโต“ โดยมองว่าเป็นวาทกรรม ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง อย่าคาดการณ์ล่วงหน้า เพราะมีหลายปัจจัย อยากให้ความสำคัญกับความเป็นจริงมากกว่า

ส่วนการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับนักโทษคดี มาตรา 112 จะไม่สามารถทำได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาดูก่อน ถ้าเกิดการพูดถึงเป็นการล้มล้างการปกครอง ก็ชัดเจนว่าคำวินิจฉัยจะผูกพันทุกองค์กร จึงต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่จุดยืนในมาตรา 112 ของพรรคเพื่อไทย มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ว่าเรื่องมาตรา 112 เป็นเรื่องที่สามารถทำให้เกิดความขัดแย้งใหม่ได้ เพราะมีความเห็นต่างของประชาชน ซึ่งจะต้องหาข้อสรุปให้ได้ก่อน และถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ควรจะแตะต้อง เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง อีกทั้งมีเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน วิกฤตเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่เรื่องที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดคุย

ส่วนที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญเรื่องอำนาจหน้าที่ เพื่อลดอำนาจของศาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปถามรายละเอียดจากนายปิยบุตร ตนเองเป็นนักรัฐศาสตร์ ไม่เข้าใจกฎหมายและยังไม่เห็นรายละเอียดของกฎหมายจริงๆ แต่คิดว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผลรองรับและเป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่ความคิดเห็นของคนใดคนหนึ่ง หากเป็นความคิดเห็นก็ให้เสนอต่อสภาเพื่อพิจารณา ส่วนตนเองยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่คิดว่าทุกองค์กรล้วนมีหน้าที่ตามสถานการณ์ หากเหมาะสมก็ดำเนินการไปและเป็นที่ยอมรับของทุกคน