จากกรณีเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา มีเหตุลักทรัพย์เป็นรถยนต์กระบะของ บริษัทขนส่งไปรษณีย์ไทย หายไปจากพื้นที่หมู่ 5 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงได้แจ้งประสานสกัดจับกุมทั้งในพื้นที่จังหวัดข้างเคียงทันที

 

กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพขณะที่ผู้ก่อเหตุปั่นรถจักรยานผ่านหน้ากล้องวงจรปิดไป แล้วเดินย้อนกลับมาตามเส้นทางโดยมีกระเป๋าสะพายมาด้วย จังหวะนั้นมีรถกระบะไปรษณีย์ไทยมาจอดส่งพัสดุพอดี คนขับลงจากรถเข้าไปติดต่อลูกค้าไม่ได้ดับเครื่อง ผู้ก่อเหตุอาศัยทีเผลอเปิดประตูแล้วขึ้นรถขับหนีออกไปทันที

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบัญชาการตำรวจทางหลวง (กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี) ได้รับการประสานจาก สถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง ว่ามีเหตุลักทรัพย์รถยนต์ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่บริเวณตรงข้ามหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งจังหวัดราชบุรี แล้วมุ่งหน้าเข้าเขตพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงวิทยุสั่งการให้หน่วยบริการทางหลวงทุกจุดเฝ้าสังเกตุและออกตรวจตราตามเส้นทางที่เชื่อมต่อมาจากอำเภอบ้านโป่ง

 

ต่อมาเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน จนท.ตร.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. พร้อม จนท.ตร.สภ.ด่านมะขามเตี้ย จว.กาญจนบุรี ได้ตรวจพบว่ารถคันที่ถูกลักมาคันดังกล่าว ได้ขับเข้ามาในพื้นที่ตำบลกลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี จึงได้ร่วมกันทำการสกัดจับรถคันดังกล่าวไว้ได้ที่สามแยกยางเกาะ ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี จึงควบคุมตัวคนก่อเหตุและรถกระบะมาสอบสวนที่ สภ.ด่านมะขามเตี้ย

 

ผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายวิโรจน์ จันทร์ดี อายุ 31 ปี ที่อยู่ 11 หมู่ 7 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนรถของกลางเป็นรถยนต์กระบรรทุกส่วนบุคคล ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด สีขาว - แดง หมายเลขทะเบียน 1ฒฬ-200 กรุงเทพฯ ตรวจสอบสิ่งของพัสดุลูกค้าครบถ้วน จึงได้สานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง มารับตัวผู้ต้องหาและรถกระบะของกลางที่มีกล่องพัสดุและจดหมายกว่า 50 รายการไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย

 

ทางด้าน พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 บก.ทล.ให้ข้อมูลว่าพอเจอรถติดเครื่องไว้ ก็เปิดประตูขึ้นไปขับ ไม่มีเป้าหมายปลายทาง กะว่าขับไปเรื่อยๆ จะมาจอดที่วัดด่านมะขามเตี้ย เพื่อดูของสิ่งของสินค้าที่พอขายได้

 

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายวิโรจน์ถึงสาเหตุแห่งการที่ลงมือก่อเหตุ ว่าที่นายวิโรจน์กว่าจะตอบมาก็ตอบว่า รู้ ตอนที่ไปเอารถรถติดเครื่องไว้ ก็จะขับไป ไม่มีเงิน ขับรถไปหาเงิน ขับรถไปหาที่อยู่ใหม่ วิโรจน์ยังยอมรับว่ารู้ว่าทำผิดกฎหมาย....